รอยเตอร์/ MGR Online - ฝรั่งเศสเริ่มระบายคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 ตอบโต้การปิดกั้นโรงกลั่นต่างๆ ของสหภาพแรงงานที่ยกระดับกดดันรัฐบาลประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ในเรื่องร่างกฎหมายปฏิรูป จากการเปิดเผยของสหพันธ์อุตสาหกรรมน้ำมันฝรั่งเศสในวันพุธ (25 พ.ค.)
การประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายปฏิรูปแรงงานของเหล่าสหภาพแรงงานกำลังปิดกั้นโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ทั่วประเทศ และเมื่อประกอบกับการซื้อกักตุนด้วยความตื่นตระหนก ปัญหาความยุ่งเหยิงดังกล่าวจึงนำมาสู่ภาวะขาดแคลนน้ำมันอย่างกว้างขวางในฝรั่งเศส ในนั้นรวมถึงกรุงปารีส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ฝรั่งเศสมีคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ที่สามารถใช้บริโภคในยามฉุกเฉินได้หลายเดือน ขณะที่ครั้งสุดท้ายที่คลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ถูกนำมาใช้ เกิดขึ้นตอนที่สหภาพแรงงานปิดกั้นโรงกลั่นต่างๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ ระหว่างการประท้วงแผนปฏิรูปเบี้ยบำนาญในปี 2010
สำหรับหนนี้ เหล่าแรงงานในโรงกลั่นน้ำมันพากันผละงานเพื่อประท้วงกฎหมายปฏิรูปแรงงานที่รัฐบาลผลักดันผ่านรัฐสภา ซึ่งจะมีการจำกัดสิทธิของแรงงาน ขณะเดียวกันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในการทำงาน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และทำให้ฝ่ายนายจ้างสามารถจ้างงานและปลดพนักงานได้ง่ายขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลการผละงานดังกล่าวจะทำให้ฝรั่งเศสสูญเสียศักยภาพในการผลิตน้ำมัน 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และขณะดียวกันก็จะทำให้สถานีบริการน้ำมันกว่า 2,000 แห่งทั่วฝรั่งเศสเกิดการขาดแคลนน้ำมัน ขณะที่บางแห่งก็มีรถเข้ามาต่อแถวรอเติมเชื้อเพลิงกันยาวเหยียด
ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมน้ำมันฝรั่งเศส (UFIP) ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น ระบุว่า ทางอุตสาหกรรมต้องใช้คลังสำรองทางยุทธศาสตร์เป็นเวลา 2 วัน และเสริมว่าคลังสำรองที่ใช้คิดเป็นปริมาณแค่เล็กน้อยเท่านั้น “ทุกวันที่เราใช้จะเท่ากับปริมาณการบริโภคในหนึ่งวัน และในกรณีเลวร้ายสุด หากสถานการณ์ยังคงตึงเครียดเช่นนี้เราสามารถดำเนินการแบบนี้ได้นานถึง 3 เดือน” พร้อมระบุว่าแม้ว่าโรงกลั่นหยุดทำงานทุกแห่ง ระบบท่อลำเลียงก็ยังจะเปิดทางให้อุตสาหกรรมปฏิบัติการได้ต่อไป
เมื่อวันอังคาร (24 พ.ค.) สหภาพแรงงานฝรั่งเศสยกระดับมาตรการกดดันรัฐบาลเกี่ยวกับการปฏิรูปแรงงาน ด้วยการเพิ่มการชุมนุมเปิดเส้นทางการขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นในประเทศทั้ง 8 แห่ง หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาดำเนินการปิดกั้นแค่ครึ่งเดียว
การชุมนุมประท้วงคราวนี้สะท้อนความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปีระหว่างสหภาพแรงงานกับรัฐบาลกลาง ซึ่งยืนยันจะเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา หลังใช้อำนาจพิเศษให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
