เอเอฟพี – อัยการสหรัฐฯ เรียกร้องให้ศาลลงโทษประหารชีวิตชายอเมริกันผิวขาว ซึ่งเข้าไปกราดยิงคนตาย 9 ศพภายในโบสถ์คนผิวสีที่มลรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อปีที่แล้ว
ดีแลนน์ รูฟ วัย 22 ปี ซึ่งได้ไปเข้ากลุ่มเรียนพระคัมภีร์ไบเบิลในช่วงเย็นที่โบสถ์เอ็มมานูเอล แอฟริกัน เมโธดิสต์ เอปิสโคปัล เชิร์ช ในเมืองชาร์ลสตัน จากนั้นก็ชักปืนขนาด .45 มม. ขึ้นมายิงผู้ที่กำลังสวดมนต์อยู่เสียชีวิต 9 ราย และอีก 3 รายรอดมาได้
รูฟ ถูกดำเนินคดีฐานฆาตกรรมทั้งในศาลระดับรัฐและศาลรัฐบาลกลาง แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากระบวนการไต่สวนของศาลรัฐบาลกลางจะเริ่มเมื่อใด
“หลังจากที่กระทรวงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและตัวบทกฎหมายอย่างละเอียด ดิฉันจึงตัดสินใจว่ากระทรวงยุติธรรมจะเสนอโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ต้องหารายนี้" โลเร็ตตา ลีนช์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุในคำแถลง
“ลักษณะของการก่ออาชญากรรม และความสูญเสียที่ติดตามมา คือเหตุผลที่ดิฉันตัดสินใจเช่นนี้”
นอกจากนี้ ในการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงที่เมืองชาร์ลสตัน ทีมอัยการก็ได้อ้างถึงปัจจัยร้ายแรงต่างๆ ซึ่งทำให้ รูฟ สมควรได้รับโทษประหาร
“เขาแสดงออกถึงความเกลียดชังและการดูถูกชาวแอฟริกัน-อเมริกัน รวมไปถึงชนกลุ่มน้อยอื่นๆ และความรู้สึกชิงชังชาวแอฟริกัน-อเมริกันนี่เองที่เป็นตัวกระตุ้นให้เขาลงมือก่อเหตุฆาตกรรม” เอกสารความยาว 7 หน้ากระดาษที่อัยการ จูเลียส ริชาร์ดสัน และ เนธัน วิลเลียมส์ ได้ยื่นต่อศาล ระบุ
อัยการทั้งสองยังชี้ว่า รูฟ “ไม่แสดงอาการสำนึกผิด” และ “จงใจกระทำต่อเหยื่อทั้งชายและหญิงที่กำลังศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิลอยู่ในโบสถ์ เอ็มมานูเอล เอเอ็มอี โดยหวังปลุกปั่นให้เกิดกระแสต่อต้านคนผิวสีในสหรัฐฯ”
ทีมทนายความของ รูฟ ยังไม่ตอบรับคำขอสัมภาษณ์จากสื่อมวลชน
หนุ่มผิวขาวผู้นี้ถูกตำรวจรวบตัวได้ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา หลังลงมือก่อเหตุเพียง 1 วัน
ตำรวจยังไปพบเว็บไซต์ของเขาซึ่งมีเนื้อหาและภาพที่บ่งบอกถึงแนวคิดเหยียดคนผิวสี รวมถึงภาพที่ รูฟ กำลังถือปืนและชูธงสมาพันธรัฐอเมริกา ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แทนระบบทาสและการเหยียดผิว
เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว รูฟ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้ง 33 กระทงที่คณะลูกขุนใหญ่ได้แจ้งมา ซึ่งในนั้นยังรวมถึงข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมความเกลียดชัง ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้ายผู้อื่นเพียงเพราะความชิงชังในเชื้อชาติหรือสีผิว
เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว สการ์เล็ต วิลสัน อัยการประจำเทศมณฑล ยืนยันว่าเธอจะเรียกร้องให้ศาลสั่งประหารชีวิต รูฟ เช่นเดียวกับผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกี ฮาลีย์ ซึ่งสนับสนุนให้ลงโทษขั้นสูงสุดกับชายหนุ่ม “ผู้มีแต่ความเกลียดชัง”
ทนายของ รูฟ เคยระบุว่า อาจจะขอให้เขาทำข้อตกลงสารภาพผิดเพื่อรับโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน