เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่พบเว็บไซต์ที่จัดทำโดย “ดีแลนน์ รูฟ” ในวันเสาร์ (20 มิ.ย.) ที่มือปืนสังหาร 9 ศพในชาร์ลสตันรายนี้ใช้ในการต่อว่าชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ทั้งยังมีบรรดารูปภาพถือปืน และเผาธงอเมริกา
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอระบุว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเว็บไซต์นี้
ถ้อยแถลงความยาว 2,500 คำที่แสนวกวนชวนสับสนภายในเว็บไซต์ เต็มไปด้วยการเหยียดผิวแถมสะกดคำผิดมากมาย แม้จะไม่มีการเอ่ยถึงชื่อของผู้ต้องสงสัยวัย 21 ปีรายนี้ แต่ด้วยเนื้อหาที่อ้างอิงถึงชาร์ลสตันและการแบ่งแยกสีผิวในเซาท์แคโรไลนา บ่งชี้ว่าเขาเป็นคนเขียนถ้อยคำเหล่านี้ แถมยังมีรูปของรูฟอยู่ในเว็บไซต์นี้ด้วย
ดีแลนน์ รูฟ ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้คนในโบสถ์แห่งหนึ่งจนมีผู้เสียชีวิตไป 9 รายเมื่อวันพุธ ที่เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา เพื่อสร้างความโกรธแค้นให้กับคนต่างสีผิว เขาถูกจับกุมตัวได้ในวันต่อมาในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ขณะนี้ถูกคุมขังและโดนตั้งข้อหาฆาตกรรม 9 กระทง
ข้อความบนเว็บไซต์ได้อ้างว่า “ผมไม่มีทางเลือก ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะบุกไปสู้ในถิ่นของพวกมันได้โดยลำพัง ผมเลือกชาร์ลสตันเพราะมันเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ในรัฐของผม แถมครั้งหนึ่งยังเคยมีอัตราส่วนคนผิวดำต่อคนผิวขาว มากที่สุดในประเทศ”
“เราไม่มีพวกหัวโล้น ไม่มีพวก คู คลักซ์ แคลน ไม่มีใครทำอะไรเลย มีแต่นักเลงคีย์บอร์ดทางอินเตอร์เน็ต ดูเหมือนว่าคงจะต้องมีใครสักคนที่กล้าพอจะลงมือทำในโลกแห่งความจริง แล้วผมก็คิดว่าคนคนนั้นคงต้องเป็นผม” ข้อความบนเว็บไซต์ระบุ
ทางด้านไฟล์ข้อมูลที่สามารถดาวโหลดได้บนเว็บไซต์นี้ เต็มไปด้วยรูปภาพชวนหลอนของ ดีแลนน์ รูฟ โดยมีอยู่หนึ่งรูปที่เห็นเขาอยู่ในสวน ถือธงสมาพันธรัฐอเมริกากับปืนพก สวมแว่นกันแดดสไตล์นักบิน ล้อมรอบไปด้วยกระถางดอกไม้
มี 2 รูปที่เห็นดีแลนน์รูฟอยู่ภายในห้องนอน โดยมีหนึ่งรูปที่เห็นธงสมาพันธรัฐอเมริกา ส่วนอีกรูปกำลังเล็งปืนมาที่กล้อง ส่วนรูปอื่นๆ มีบางรูปที่เห็นเขาสวมชุดที่มีธงโรดีเซีย อันเป็นชื่อเรียกซิมบับเวตอนที่ถูกปกครองด้วยคนขาว ยุคของการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้
การก่อเหตุยิงผู้คนครั้งนี้ ถือเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดสำหรับการโจมตีสถานที่ทำพิธีทางศาสนาของสหรัฐฯ ในรอบหลายทศวรรษ แถมยังเกิดขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดเรื่องสีผิวปะทุขึ้นในหลายพื้นที่ของอเมริกา
หมายจับของรูฟระบุว่า เขาได้ยิงผู้หญิง 6 คน ผู้ชาย 3 คน มีอายุระหว่าง 26 - 87 ปี ด้วยอาวุธปืน โดยมุ่งหวังให้เกิดความโกรธแค้นระหว่างผู้คนต่างสีผิว ทั้งนี้ หากมีการตัดสินว่าผิดจริง รูฟอาจต้องเจอกับโทษประหารชีวิต