xs
xsm
sm
md
lg

“มิคาอิล กอร์บาชอฟ” ประกาศยืนยัน “บุกยึดไครเมีย” เป็นหนทางที่ถูกต้องสำหรับปูติน! พร้อมเปิดความรู้สึก “เสียใจทำอดีตสหภาพโซเวียตล่ม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/MRG ออนไลน์ - มิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำคนสุดท้ายของอดีตสหภาพโซเวียตให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์อังกฤษ ซันเดย์ไทม์สออฟลอนดอนในวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ว่า เขาสนับสนุนการการเข้าบุกยึดไครเมียของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในปี 2014 และยอมรับว่าหากเขายังคงอยู่ในอำนาจในฐานะผู้นำประเทศจะทำการบุกเข้ายึดไครเมียเช่นเดียวกัน และในการให้สัมภาษณ์ยังเปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจที่ทำให้อดีตมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของโลกต้องล่มสลาย และเฝ้าดูสหรัฐฯ ลิงโลดและหยิ่งผยองหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

เอเจนซีส์ - นิวยอร์กโพสต์ รายงานเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) ว่า ในการเปิดใจให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ มิคาอิล กอร์บาชอฟ ในวัย 85 ปี อดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย ได้กล่าวสนับสนุนการตัดสินใจส่งทหารเข้าบุกยึดไครเมียในปี 2014 ของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ว่า “ผมยืนอยู่ข้างจุดยืนในการเลือกของประชาชนชาวไครเมียที่มีต่ออำนาจรัฏฐาธิปัตย์ในความต้องการที่จะกลับเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับรัสเซีย”

ทั้งนี้ สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกอร์บาชอฟและประธานาธิบดีรัสเซียยังคงอยู่ในความน่าสงสัย เพราะกอร์บาชอฟผู้ที่กำลังจะออกผลงานหนังสือบันทึกแห่งความทรงจำเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของตัวเอง ได้เคยกล่าววิจารณ์ปูตินถึงในเรื่องการกอดอำนาจทางการเมืองของเขาไว้ยาวนานกว่า 15 ปี และยังรวมไปถึงการกระทำของผู้นำรัสเซียที่ตัดสินใจใช้ความรุนแรงต่อการสลายการประท้วง

กอร์บาชอฟได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ในเรื่องนี้ว่า “เราทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์ระดับปกติในอดีต” และยังกล่าวต่อว่า “แต่ในขณะนี้ผมไม่ขอเรียกมันว่า “ปกติ” เพราะเราไม่มีความสัมพันธ์แม้แต่น้อย” กอร์บาชอฟแถลง

และในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อังกฤษ ซันเดย์ไทม์สออฟลอนดอนในวันอาทิตย์ (22) กอร์บาชอฟยังเปิดเผยยอมรับว่า เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากต่อการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียตในปี 1991 และสหรัฐฯ แสดงอาการลิงโลดหลังจากการล่มสลายของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่นี้ โดย RT สื่อรัสเซียได้ออกมาชี้ว่า การเปิดใจในความรู้สึกต่อสหรัฐฯที่มีหลังจากสหภาพโซเวียตได้ล่มสลายลง อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เบื้องหลังความสัมพันธ์อันเลวร้ายระหว่างวอชิงตันและเครมลิน

โดยกอร์บาชอฟได้ชี้ว่า ถึงแม้พวกวอชิงตันจะพยายามปิดบังซ่อนความรู้สึกไม่ให้รับรู้ถึงความปิดติยินดีอย่างยิ่งต่อความล่มสลายของอาณาจักรโซเวียต แต่ทว่ามีความจริงมากมายพิสูจน์ได้ว่าสหรัฐฯมีความสุขมากเพียงใดที่เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้น และยินดีกับอำนาจของโลกทั้งหมดที่สหรัฐฯรวบไว้แต่เพียงผู้เดียวในขณะนี้ “ใต้โต๊ะ สหรัฐฯกลับถูมือด้วยอาการลิงโลดจนเหมือนเกือบจะระงับไม่อยู่” มิคาอิล กอร์บาชอฟ กล่าวกับสื่ออังกฤษ

และอดีตผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียตยังกล่าวเพิ่มเติมผ่านการรายงานของสื่อรัสเซีย สปูนิค ว่า “พวกอเมริกันคิดว่า โอ...ใช่แล้วในขณะนี้พวกเราได้กลายเป็นผู้นำของโลก คนพวกนี้ไม่ได้ต้องการอย่างจริงจังในการช่วยรัสเซียพัฒนาประเทศเพื่อให้มีความเสถียรภาพและมีระบบประชาธิปไตยที่มั่นคง พวกเขาคิดว่าพวกเขาาประสบความสำเร็จที่ทำให้รัสเซียต้องลดขนาดแบบเดียวกันกับที่บริษัทจำเป็นต้องทำการดาวน์ไซส์ซิงได้แล้ว ซึ่งในระหว่างกระบวนการนี้พวกอเมริกันได้ทำลายความเชื่อมั่นที่พวกเราได้สร้างกันมา”

และในรายงานของสปูนิค กอร์บาชอฟยังได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ต่อว่า คนรัสเซียส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกเสียใจต่อการล่มสลายของอาณาจักรสหภาพโซเวียตที่ยิ่งใหญ่

กอร์บาชอฟได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ชาติที่ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล พร้อมไปด้วยศักยภาพและความเป็นไปได้ที่จะสามารถเกิดขึ้น แต่กลับต้องหายพริบตา” และกอร์บาชอฟยังชี้ต่อว่า “คนรัสเซียส่วนใหญ่ซึ่งรวมทั้งตัวผม รู้สึกเช่นเดียวกันในเรื่องนี้ แต่เป็นที่แน่นอนว่า พวกเรา “ไม่ต้องการนำเอาอาณาจักรกลับมาอีกครั้ง” ถึงแม้ว่าพวกเราทั้งหมดจะเศร้าใจเป็นอย่ามากก็ตาม”

RT รายงานความเห็นของอดีตผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียตว่า “ในความตั้งใจของผมที่มีต่อสหภาพโซเวียต ผมต้องการเพียงการปฎิรูปเท่านั้น แต่ไม่เคยต้องการที่จะทำลาย” สปูนิครายงาน

สือรัสเซียรายงานต่อว่า ในการตอบโต้ต่อการให้สัมภาษณ์อันดุเดือดของอดีตผู้นำสหภาพโซเวียตต่อการสนับสนุนวลาดิมีร์ ปูตินในการเข้าบุกยูเครน ยึดไครเมียตกเป็นของรัสเซีย ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยยูเครน อองตวน เกราสเชนโก (Anton Geraschenko) ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทางยูเครนจะทำการคว่ำบาตรต่อมิคาอิล กอร์บาชอฟ และรวมไปถึงจะเรียกร้องให้เพื่อนสหภาพยุโรปออกมาตรการในอย่างเดียวกัน

“ผมไม่สามาาถนึกออกได้ว่าชายผู้นี้ยืนอยู่บนพื้นดินยูเครนครั้งสุดท้ายเมื่อใด” เกราสเชนโกแถลง และยังกล่าวต่อว่า “เราจะทำการติดต่อเพื่อนชาติสมาชิกสหภาพยุโรปในระดับการทูต และร้องให้ชาติสมาชิกเหล่านี้ทำการคว่ำบาตร ด้วยการประกาศห้ามเข้าประเทศ และยังรวมไปถึงหยุดการสนับสนุนด้านการเงินเข้ามูลนิธิของกอร์บาชอฟ ที่เป็นตัวการในการเผยแพร่ความเกลียดชังระหว่างทั้งยูเครนและรัสเซีย” เกราสเชนโกให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุยูเครนโกโวรริต มอสกา (Govorit Moskva) ในวันอาทิตย์ (22 พ.ค.)


กำลังโหลดความคิดเห็น