xs
xsm
sm
md
lg

ไวรัสซิกาในทวีปอเมริกาลุกลาม แพร่ระบาดถึงแอฟริกาเป็นครั้งแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ไวรัสซิกาที่เกี่ยวข้องกับอาการทางระบบประสาทและความพิการแต่กำเนิดในละตินอเมริกา ถูกพบในแอฟริกาเป็นครั้งแรกแล้ว จากการเปิดเผยองค์การอนามัยโลกในวันศุกร์(20พ.ค.)

หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติเปิดเผยว่าเชื้อไวรัสซิกาที่กำลังวนเวียนอยู่ในประเทศเคปเวิร์ด เป็นสายพันธุ์เดียวกันที่่แพร่ระบาดอยู่ในทวีปอเมริกา "เป็นครั้งแรกที่ไวรัสซิกาสายพันธุ์นี้ ซึ่งก่ออาการทางระบบประสาทและภาวะศีรษะเล็กในทารกแรกเกิด ถูกพบในแอฟริกา" มัตชิดิโซ โมอีติ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ประจำภูมิภาคแอฟริกาบอกกับผู้สื่อข่าวในเจนีวา

ในบราซิล ชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด เพียงประเทศเดียว มีประชาชนติดเชื้อไวรัสซิกาสายพันธุ์เอเชียนี้ราว 1.5 ล้านคน ขณะที่ในเคปเวิร์ด ตรวจพบผู้ติดเชื้อผ่านเทคนิคการเรียงลำดับรหัสสารพันธุกรรม (sequencing)

"มันคือสารพันธุกรรมเดียวกับไวรัสในบราซิล" โฆษกองค์การอนามัยโลกบอกกับเอเอฟพี "การค้นพบเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะมันเป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมว่าโรคระบาดแผ่ลามออกนอกอเมริกาใต้แล้วและมันจ่อบันไดหน้าบ้านของแอฟริกา ข้อมูลนี้จะช่วยให้ประเทศต่างๆในแอฟริกาประเมินระดับความเสี่ยงใหม่ ปรับตัวและเพิ่มระดับการเตรียมพร้อมรับมือ"

เหล่าผู้เชี่ยวชาญเห็นห้องว่าไวรัสซิกาอยู่เบื้องหลังกรณีทารกจำนวนมากเกิดมามีศีรษะเล็กผิดปกติ (microcephaly) หลังจากมารดาของทารกเหล่านั้นติดเชื้อตอนตั้งครรภ์

นอกจากนี้แล้ว ไวรัสซิกา ซึ่งมียุงลายเป็นพาหนะ แต่มันก็สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน ยังอาจก่ออาการที่ลุกลามเป็นความผิดปกติทางระบบประสาทที่พบไม่บ่อยนัก ซึ่งเรียกว่า กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร

กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร ซึ่งคือระบบภูมิต้านทานร่างกายเกิดการทำลายระบบประสาท ทำให้ร่างกายอ่อนแอหรือถึงขั้นเป็มอัมพาต เกิดขึ้นตามหลังการระบาดของซิกามากขึ้นเรื่อยๆ จึงกระพือข้อสงสัยว่ามันคือภาวะแทรกซ้อนของไข้เขตร้อนอ่อนๆชนิดอื่น ซึ่งเป็นต้นตอที่ก่อความเสียหายทางสมองในทารกที่เกิดกับมารดาที่ติดเชื้อเช่นกัน

องค์การอนามัยโลกเชื่อว่านักท่องเที่ยวที่มาจากบราซิล เป็นคนนำไวรัสซิกาสายพันธุ์เอเชียเข้ามายังเคปเวิร์ด ก่อนเริ่มแพร่ระบาดในท้องถิ่น อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าไวรัสซิกาสายพันธุ์เอเชียนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรในแอฟริกา

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่าจนถึงวันที่ 8 พฤษภาคม พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสซิกาในเคปเวิร์ด จำนวน 7,557 คน เช่นเดียวกับกรณีทารกศีรษะเล็กอีก 3 ราย อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ยังไม่พบผู้ป่วยกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร


กำลังโหลดความคิดเห็น