มหาสารคาม - แพทย์เตือนหน้าฝนระวังโรคมือ เท้า ปาก หลังพบผู้ป่วยกลุ่มเด็กในพื้นที่ป่วยด้วยโรคนี้แล้ว 10 ราย เห็นอาการผิดสังเกตรีบพาปรึกษาหมอ
นพ.วีรศักดิ์ อนุตรอังกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส เชื้อจะติดมากับมือที่สัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย น้ำในตุ่มพองหรือแผล และอุจจาระของผู้ป่วย ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์โรคมือ เท้า ปากในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2559 โรงพยาบาลมหาสารคามได้รับผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก จำนวนทั้งสิ้น 10 ราย
คิดเป็นอัตราป่วย 6.31 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต ทั้งนี้เฉพาะเดือนมิถุนายนที่เป็นช่วงฝนตกต่อเนื่องเดือนเดียวมีผู้ป่วยถึง 4 ราย เพิ่มมากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่คือกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ
สำหรับช่วงนี้จังหวัดมหาสารคามฝนตกชุก สภาพอากาศชื้น ทำให้เชื้อโรคกระจายตัวได้รวดเร็ว และมีความเสี่ยงเกิดโรคมือ เท้า ปากได้สูง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก เนื่องจากเด็กมักจะหยิบจับสิ่งของแล้วไม่ค่อยชอบล้างมือ หรือไปจับกลุ่มเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกัน จนทำให้เชื้อโรคแพร่ติดต่อสู่กันไปได้ง่าย สำหรับอาการป่วยจะเริ่มจากมีไข้และมีตุ่มพองเกิดขึ้นในปาก ที่ฝ่ามือหรือผิวหนัง
ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง จะหายป่วยได้เองภายใน 7-10 วัน ทั้งนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรแนะนำให้เด็กล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ ให้ติดเป็นนิสัยด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังการขับถ่าย หรือเมื่อสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย หยิบจับสิ่งของสกปรกต่างๆ
ทั้งนี้ เชื้อโรคมือ เท้า ปาก มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็รุนแรงไม่เท่ากัน แต่สายพันธุ์ที่รุนแรงคือ สายพันธุ์เอนเทอโรไวรัส (EV) 71 ซึ่งเชื้อดังกล่าวจะทำให้อาการทรุดหนักรวดเร็วและเสี่ยงเสียชีวิตได้ง่าย ปัจจุบันไม่มียา-วัคซีนป้องกัน ต้องรักษาตามอาการ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ กลุ่มเด็ก ที่มีโอกาสป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ได้มากกว่ากลุ่มอายุอื่น หากพบบุตรหลานมีอาการป่วยรุนแรงขึ้น
เช่น ไข้สูง อาเจียน หอบเหนื่อย ซึม หรืออาการแย่ลงในระยะเวลารวดเร็วอย่าหายามารับประทานเอง ต้องรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
