อาฟเตอร์ช็อกรุนแรงถล่มซ้ำพื้นที่ประสบภัยหายนะเอกวาดอร์ บาดเจ็บ-เสียหายเล็กน้อย

รอยเตอร์/เอเอฟพี - เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.7 สั่นสะเทือนชายฝั่งของเอกวาดอร์ในช่วงเช้าวันพุธ (18 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและก่อความเสียหายเล็กน้อย ในพื้นที่เดียวกับที่เกิดธรณีพิโรธ 7.8 สังหารผู้คนมากกว่า 650 ศพ เมื่อเดือนก่อน

สถาบันธรณีวิทยาแห่งชาติของเอกวาดอร์ วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ 6.8 หนักหน่วงกว่าของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) พร้อมระบุว่า มันเกิดขึ้นตอนเวลา 02.57 น. (ตรงกับเมืองไทย 14.57 น.) ในพื้นที่เขตมานาบี ทางตะวันตกของประเทศ

ประธานาธิบดี ราฟาเอล คอร์เรีย เขียนลงบนทวิตเตอร์ ในความพยายามปลอบใจประชาชนที่ยังคงหวาดผวากับแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อเดือนที่แล้ว และระบุว่า ไม่มีการประกาศเตือนสึนามิ ตามหลังแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด “ขอทุกคนอยู่ในความสงบ” และราษฎรของกรุงกีโต ปลอดภัยเพียงพอที่จะกลับเข้าไปในที่พักอาศัยได้แล้ว

ผู้นำรายนี้บอกต่อว่า พื้นที่บางส่วนในมานาบี และ จังหวัดเอสเมรัลดัส ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ และได้รับรายงานความเสียหายแแค่เล็กน้อยในบางพื้นที่เท่านั้น

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ บอกว่า แผ่นดินไหวในวันพุธ (18 พ.ค.) มีความลึก 32 กิโลเมตร และมีศูนย์กลางห่างจากกรุงกีโต ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 136 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวคราวนี้เกิดขึ้นราว 1 เดือน ตามหลังเหตุธรณีพิโรธครั้งรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 7 ทศวรรษของเอกวาดอร์เมื่อวันที่ 16 เมษายน ซึ่งเขย่าอาคารต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่งพังราบ

นอกจากผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว แผ่นดินไหวคราวนั้นยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 6,000 คนและอีกเกือบ 29,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย และก่อความเสียหายเป็นมูลค่าราว 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ประธานาธิบดี คอร์เรีย บรรยายแผ่นดินไหวในวันพุธ (18 พ.ค.) ว่า เป็นอีกหนึ่งอาฟเตอร์ช็อกจากเหตุธรณีพิโรธเมื่อเดือนเมษายน พร้อมเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อยระหว่างวิ่งหนีออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้ให้ตัวเลขที่ชัดเจน

ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า แผ่นดินไหวทำให้ไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ตามแนวชายฝั่งและกระตุ้นให้ผู้คนวิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนท้องถนน ไกลถึงกรุงกีโต