เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - บริษัท โฮลดิงคอมปานี เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ อิงก์ (Berkshire Hathaway Inc) ของพ่อมดการเงินวอลสตรีท วอร์เรน บัฟเฟตต์ แถลงในวันจันทร์ (16 พ.ค.) ในการลงทุน 1.46 พันล้านดอลลาร์ ทุ่มซื้อ 9.81 ล้านหุ้นของบริษัท แอปเปิล อิงก์ ถือเป็นการกระโดดเข้ามาลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีของพ่อมดการเงินวอลล์สตรีทรายนี้ที่มักจะเลี่ยงไม่ให้ความสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทค
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส สื่อสิงคโปร์ รายงานเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) และรวมไปถึงสื่อรอบโลกว่า หลังจากการประกาศของบริษัท โฮลดิงคอมปานี เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ อิงก์ (Berkshire Hathaway Inc) ของพ่อมดการเงินวอลล์สตรีท วอร์เรน บัฟเฟตต์ ในการใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลลงทุนในบริษัท แอปเปิล อิงก์ในวันจันทร์ (16) ส่งผลทำให้หุ้นของแอปเปิล อิงก์ ตอบรับข่าวดีทันที 3.7% โดยรอยเตอร์รายงานว่า หุ้นแอปเปิล อิงก์ในวันจันทร์นั้นขึ้นเกือบ 3.36 ดอลลาร์ อยู่ที่ราคา 93.88 ดอลลาร์
สื่อสิงคโปร์รายงานต่อว่า เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ อิงก์ ถือหุ้นแอปเปิล อิงก์ จำนวน 9.81 หุ้นมีมูลค่า 1.07 พันล้านดอลลาร์ของวันที่ 31 มีนาคม ล่าสุด อ้างอิงจากรายงานการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทพ่อมดการเงินวอลล์สตรีท
ทั้งนี้ในเดือนที่ผ่านมา บริษัท แอปเปิล อิงก์ ของเจ้าพ่อทิม คุก รายงานผลประกอบการลดลงในไตรมาสแรกในรอบ 13 ปี ส่งผลทำให้บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์กังวลว่า ยุคแห่งความช่วงโชติของบริษัท แอปเปิล อิงก์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ซึ่งทางสเตรทไทม์สชี้ว่า สถานการณ์ราคาหุ้นของทางบริษัท แอปเปิล อิงก์ ได้รูดลงนับตั้งแต่กลางปี 2015 เป็นต้นมา ซึ่งอาจกลายเป็นการสร้างโอกาสในวิกฤตให้กับทางเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ อิงก์ ก็เป็นได้
และถึงแม้สถานการณ์บริษัทจะคับขันในด้านตัวเลขรายได้ทางบัญชี แต่ทว่าซีอีโอของแอปเปิล อิงก์ คุกมีแผนการในการเปิดตลาดใหม่ให้กับทางแอปเปิล อิงก์ เช่น ในตลาดธุรกิจ รถขับเคลื่อนด้วยต้นเอง แข่งขันกับกูเกิล อิงก์ เพื่อลดความเสี่ยงในการที่ทางแอปเปิลต้องฝากความหวังทางด้านการเงินกับผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือไอโฟนแต่เพียงอย่างเดียว
สื่อสิงคโปร์รายงานต่อว่า การก้าวเข้ามาถือหุ้นล็อตใหญ่ในแอปเปิล อิงก์ครั้งนี้ เป็นการลงทุนที่ไม่บ่อยครั้งในธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีของทางเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ อิงก์ ที่ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนมหาศาลในบริษัท IBM ซึ่งเป็นการตอกย้ำการให้สัมภาษณ์ของบัฟเฟตต์ที่ครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่า “เขาไม่ค่อยเข้าใจในธุรกิจด้านเทคโนโลยีมากนัก”
รอยเตอร์รายงานต่อว่า การปรากฏตัวของเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ อิงก์ ในธุรกิจแอปเปิล อิงก์ เชื่อว่าน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง โดย สตีฟ วอลแมน (Steve Wallman) ผู้ก่อตั้งบริษัทให้การปรึกษาด้านการลงทุน วอลแมน อินเวสเมนต์ เคาน์เซิล (Wallman Investment Counsel) ที่มีฐานอยู่ในเมืองมิดเดิลตัน (Middleton) รัฐวิสคอนซิน และยังเป็นผู้ถือหุ้นของเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ อิงก์ ตั้งแต่ปี 1982 และในบริษัท แอปเปิล อิงก์ ตั้งแต่ในปี 2003 เป็นต้นมา ได้กล่าวให้ความเห็นว่า “หุ้นของแอปเปิลถือว่าถูกมาก แต่ยังคงมีเงินอย่างมหาศาล” และวอลแมนได้กล่าวให้ความเห็นต่อถึงแนวทางของแอปเปิล อิงก์ในเวลานี้ว่า “ในขณะนี้บริษัท แอปเปิลไม่ได้รับเครดิตในด้านการวิจัยและพัฒนาที่ทางบริษัทกำลังซุ่มพัฒนาอยู่”
อย่างไรก็ตาม สเตรทไทม์สชี้ว่า ก่อนที่แอปเปิล อิงค์จะรับข่าวดีในต้นสัปดาห์นี้ แต่ทว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ของวันทำงานล่าสุด เดวิด เทปปอร์ (David Tepper) จาก Appaloosa Management บริษัทเฮดจ์ฟันด์สัญชาติสหรัฐฯ ได้ประกาศถอนการลงทุนจากแอปเปิล อิงก์ ด้วยการประกาศเทขายหุ้นทั้งหมดที่ถือในไตรมาสแรก และก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน นักลงทุนเศรษฐีพันล้านสัญชาติอเมริกัน คาร์ล ไอคาห์น (Carl Icahn) ได้ประกาศถอนตัวจากแอปเปิล อิงค์ ด้วยการเทขายหุ้นทั้งหมดที่ถือในมือ ด้วยการอ้างว่าเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เนื่องมาจากกังวลในความสัมพันธ์ระว่างเขาและจีน ซึ่งสื่อสิงคโปร์ชี้ว่าไม่สามารถติดต่อกับทางบริษัท แอปเปิล อิงก์ในการให้ความเห็นในเรื่องนี้ได้
สื่อสิงคโปร์รายงานต่อว่า แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัท โฮลดิง คอมปานีของเจ้าพ่อวอลล์สตรีท ดูเหมือนจะถางทางเข้าสู่การลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี โดยพบว่า ท็อดด์ คอมบ์ส (Todd Combs) ผู้ช่วยของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก่อนหน้านี้ได้ทำการลงทุนในบริษัทผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์ อินเทล และยังพบว่าตัวพ่อมดวอลล์สตรีทเองได้สนับสนุนให้ นักลงทุนเศรษฐีพันล้านสัญชาติอเมริกัน แดน กิลเบิร์ต (Dan Gilbert) เข้าประมูลช้อนซื้ออสังหาริมทรัพย์ธุรกิจหลักของบริษัท เสิร์ชเอนจิน ยาฮู อิงก์