เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ แถลงวิจารณ์นโยบายหาเสียงแบบประชานิยมของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในสายรีพับลิกัน โดยประณามวิสัยทัศน์ของมหาเศรษฐีปากเปราะ ว่า “ค้านกับลัทธิปัญญานิยม” (anti-intellectualism) และเตือนว่า “ความเขลาไม่อาจเรียกว่าเป็นคุณธรรม”
ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีประสาทปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรัตเจอร์ส มลรัฐนิวเจอร์ซีย์ โอบามา ไม่ได้เอ่ยชื่อมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชาวนิวยอร์กออกมาตรง ๆ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าเขาหมายถึง ทรัมป์ ซึ่งชูสโลแกน “ทำอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง”
โอบามา เตือนบรรดานักศึกษา ว่า ไม่จำเป็นต้องโหยหา “ยุคทอง” ของอเมริกาซึ่งผ่านไปนานแล้ว เพราะ “วันวานที่แสนดีก็ใช่จะมีแต่เรื่องดี ๆ” พร้อมทั้งชี้ถึงปัญหาที่สังคมอเมริกันเคยเผชิญมา เช่น การกีดกันทางเชื้อชาติ ความยากจน และ ความไม่เท่าเทียมทางเพศ
“โลกเราทุกวันนี้ติดต่อเชื่อมโยงถึงกันมากกว่าแต่ก่อน และจะเชื่อมโยงมากขึ้นทุกวัน การสร้างกำแพงก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้” โอบามา กล่าว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการเหน็บแนม ทรัมป์ ผู้ซึ่งประกาศจะสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก เพื่อสกัดผู้อพยพผิดกฎหมาย
โอบามา กล่าวด้วยว่า ไม่มีกำแพงใดที่จะสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้าย เช่น อีโบลา และ ไวรัสซิกา หรือช่วยธำรงไว้ซึ่งศักยภาพในการแข่งขันของสหรัฐฯ ในยุคโลกาภิวัตน์
“การเสนอให้เราสร้างกำแพงปิดล้อมพรมแดนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หรือโทษว่าปัญหาทุกอย่างเกิดจากผู้อพยพ ไม่ได้สะท้อนความจริงในประวัติศาสตร์ที่สหรัฐฯ เป็นหม้อหลอม (melting pot) ผู้คนหลากเชื้อชาติและวัฒนธรรม... และขัดแย้งกับหลักฐานที่ว่า การเติบโต นวัตกรรม และพลวัตของเรา ถูกส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรืองด้วยความสามารถในการดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก”
ผู้นำสหรัฐฯ ยังตำหนินักการเมืองที่ยกตนเป็นตัวอย่างของผู้ที่พูดจาตรงไปตรงมา (straight-talkers) แต่กลับไม่ให้ความสำคัญกับการระมัดระวังเมื่อต้องพูดถึงประเด็นละเอียดอ่อนทางสังคม (political correctness)
“ความเขลา (ignorance) ไม่อาจเรียกว่าเป็นคุณธรรม ไม่ว่าจะในวงการเมืองหรือในชีวิตก็ตาม และการที่คุณไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องเจ๋ง”