เอเอฟพี - อดีตรัฐมนตรีหญิงของฝรั่งเศส 17 คนรวมพลังกันประกาศในวันอาทิตย์ (15 พ.ค.) ว่าจะเปิดโปงประณามอย่างเป็นระบบเพื่อทำให้การคุกคามทางเพศยุติลง ความเคลื่อนไหวคราวนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังฝ่ายยุติธรรมเปิดการสอบสวนอดีตรองประธานสภาล่าง ซึ่งถูกกล่าวหาเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายๆ กรณี
“พวกเราจะไม่นิ่งเงียบอีกต่อไปแล้ว” อดีตรัฐมนตรีเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงอดีตรัฐมนตรีคลัง คริสทีน ลาการ์ด ที่ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศคนปัจจุบัน, อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข โรเซลีน บาเชอโลต์ และอดีตรัฐมนตรีการเคหะ เซซีล ดูโฟลต์ ระบุในคำแถลงซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ทางนิตยสารรายสัปดาห์ Journal du Dimanche
อดีตรัฐมนตรีหญิงเหล่านี้ให้คำมั่นที่จะ “ประณามอย่างเป็นระบบต่อพวกกดขี่ทางเพศ, ความเห็นแบบกดขี่ทางเพศ, กิริยาท่าทางที่ไม่เหมาะสม, ความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ทั้งหลายทั้งปวง”
บรรดาอดีตรัฐมนตรีเหล่านี้ออกมารวมพลังภายหลังจากคณะผู้พิพากษาทำหน้าที่อัยการของฝรั่งเศสได้ประกาศเมื่อวันอังคาร (10) ที่ผ่านมา เปิดการสอบสวนคำร้องเรียนหลายๆ กรณีเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศของ เดนิส โบแปง รองประธานสภาล่าง อันเป็นความเคลื่อนไหวซึ่งพวกผู้เชี่ยวชาญต่างปีติยินดี โดยมองว่านี่เป็นจุดสิ้นสุดของ “กฎการรักษาความลับ” ที่ยึดถือปฏิบัติกันอยู่เมื่อเกิดกรณีใช้อำนาจโดยมิชอบของพวกนักการเมือง
โบแปง ซึ่งอยู่ในวัย 53 ปี ได้ปฏิเสธเสียงแข็งต่อข้อกล่าวอ้างเหล่านั้น รวมทั้งยังให้ทนายความของเขายื่นฟ้องสื่อมวลชนฝรั่งเศส 2 รายในข้อหาหมิ่นประมาท
ในวันเดียวกันนั้นเอง รัฐมนตรีคลัง มิเชล ซาแปง ก็ตกเป็นจำเลยในกรณีฉาวโฉ่คุกคามทางเพศไปอีกรายหนึ่ง ภายหลังยอมรับว่าเขาได้ประพฤติตน “อย่างไม่เหมาะสม” ต่อนักข่าวหญิงผู้หนึ่ง หลังจากเคยปฏิเสธมา 2 ครั้ง 2 คราว่ามิได้ประพฤติเรื่องไม่เหมาะสมใดๆ
ทั้งนี้ ซาแปงออกมายอมรับครั้งหลังสุดในคืนวันอังคาร (10) ว่า เขาได้ใช้มือวางอยู่ที่หลังของนักข่าวหญิงผู้นี้ ขณะที่เขา “กำลังแสดงความคิดเห็น” ในการประชุมแถลงข่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธอยู่ 2 หนซ้อนต่อข้อกล่าวหาที่ว่า เขาได้ดึงสายยางยืดขอบกางเกงในของเธอที่บังเอิญแลบออกมา
บรรดาอดีตรัฐมนตรีสตรีเหล่านี้ระบุในคำแถลงร่วมของพวกเธอเมื่อวันอาทิตย์ (15) ว่า “เหมือนกับผู้หญิงทุกๆ คนซึ่งเข้ามายังสภาพแวดล้อมที่เมื่อก่อนเคยเป็นของผู้ชายเท่านั้น พวกเราต้องตัดสินใจว่าจะยอมจำนนหรือว่าจะต่อสู้คัดค้านการกดขี่ทางเพศ”
“มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าผู้หญิงจะต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเหล่านี้ มันเป็นพฤติกรรมของผู้ชายบางคนต่างหากที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลง” คำแถลงของพวกเธอกล่าวต่อ
“พอกันเสียที การทำผิดโดยไม่ถูกลงโทษจะต้องยุติลง”
อดีตรัฐมนตรีเหล่านี้ยังให้กำลังใจเหยื่อทุกรายของการคุกคามทางเพศและความก้าวร้าวของเพศ โดยขอให้เหยื่อเหล่านี้กล้าพูดและกล้ายื่นคำร้องเรียน
“ทุกวันนี้อาวุธทางด้านการยุติธรรมก็มีอยู่แล้ว ทว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเพียงพอ”
พวกเธอบอกด้วยว่า กฎหมายแรงงานมีเนื้อหาปกป้องคุ้มครองลูกจ้างพนักงานก็จริง ทว่ายังคงไม่ได้รับความเคารพปฏิบัติตาม โดยที่แทบไม่มีสตรีคนใดยื่นคำร้องเรียน และมีคำร้องเรียนน้อยมากที่นำไปสู่การตัดสินลงโทษผู้กระทำผิด
ทางด้านรัฐมนตรีสิทธิสตรี โลรองซ์ รอสซีโญล พูดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของฝรั่งเศสในเวลาต่อมาว่า กำลังดำเนินการอยู่ 2 ด้านเพื่อจัดการกับปัญหานี้
“ด้านแรกคือการเร่งรัดให้ร่างกฎหมายฉบับที่กำลังพิจารณากันอยู่ในรัฐสภาได้ออกมาประกาศบังคับใช้ ... ซึ่งจะขยายระยะเวลาที่สามารถเอาผิดกับผู้ละเมิดในหลายๆ กรณีเพิ่มขึ้นจาก 3 ปี เป็น 6 ปี” เธอกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว
สำหรับการดำเนินการในด้านที่สองคือ “การอนุญาตให้กลุ่มหรือองค์กรเป็นผู้ยื่นคำร้องเรียน แทนที่จะจำกัดเฉพาะเหยื่อเท่านั้น” โดยเธอกล่าวว่าร่างแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในเดือนหน้า