เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – รัฐบาลกลางสหรัฐฯออกคำสั่งทางบริหารในวันศุกร์(13 พ.ค) กำหนดให้โรงเรียนในสังกัดภาครัฐอนุญาตให้นักเรียนเพศที่ 3 สามารถเลือกเข้าห้องน้ำได้ตามเพศที่เด็กต้องการระบุ ท่ามกลางความขัดแย้งสังคมระหว่างฝ่ายอนุรักษ์และเสรีในเรื่องสิทธิของชาวเพศที่ 3 ภายในโรงเรียนและการใช้ชีวิตในสังคมที่ระอุอยู่ในอเมริกาในเวลานี้ และทำให้ผู้ว่าการรัฐทางใต้ที่อยู่ในสายพรรครีพับลิกัน เป็นต้นว่า รัฐเทกซัส และ รัฐอาร์คันซอ ประกาศจะไม่ยอมทำตามคำสั่งรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ด้วยการบังคับให้นักเรียนหญิงและนักเรียนชายของรัฐต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน
CNN รายงานวันนี้(14 พ.ค)ว่า จดหมายแถลงการณ์ร่วมจากกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ถูกส่งไปยังโรงเรียนทั่วสหรัฐฯในวันศุกร์(13 พ.ค)ในแนวทางปฎิบัติต่อโรงเรียนที่ไม่ให้มีการกีดกันนักเรียนเพศที่ 3 ในการใช้ห้องน้ำในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป ซึ่งทางวอชิงตันได้ประกาศในวันก่อนหน้านั้นว่า “เพื่อทำให้มั่นใจว่านักเรียนเพศที่ 3 จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ภายในรั้วโรงเรียนที่มีบรรยากาศสร้างสรรค์ โดยที่ไม่มีความรู้สึกถูกกีดกันแต่อย่างใด
โดยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ลอเร็ตตา ลินช์ (Loretta Lynch) ได้แถลงถึงเรื่องนี้ว่า “ภายในรั้วโรงเรียนของเรา จะไม่มีการเปิดช่องทางต่อการกีดกันทุกรูปแบบอีกต่อไป ซึ่งรวมไปถึงการกีดกันนักเรียนเพศที่ 3 จากพื้นฐานของเพศของพวกเขาอีกด้วย” และลินช์ รัฐมนตรีหญิงแอฟริกันอเมริกันยังกล่าวต่อว่า “และในแนวทางปฎิบัติที่ทางเราได้ให้ต่อผู้บริหารโรงเรียน ครู และบรรดาผู้ปกครอง เป็นเครื่องมือที่จะใช้เพื่อปกป้องนักเรียนเพศที่ 3 จากการถูกทำร้ายโดยเพื่อนของพวกเขาเอง และยังเป็นการชี้และแก้ปัญหาถึงนโยบายโรงเรียนที่ยังให้ความสำคัญกับการเลือกปฎิบัติ”
อย่างไรก็ตาม ในจดหมายที่ส่งไปถึงผู้บริหารโรงเรียนในสหรัฐฯนั้นไม่ได้ระบุว่า แนวทางปฎิบัตินี้เป็นสิ่งที่ต้องปฎิบัติตามเนื่องมาจากข้อบังคับของกฎหมาย แต่ในแถลงการณ์ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ***หากโรงเรียนใดก็ตามไม่กระทำตาม จะไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ***
แต่อย่างไรก็ตาม แนวทางปฎิบัติเรื่องห้องน้ำสำหรับนักเรียนเพศที่ 3 ได้รับการประณามและไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในรัฐที่มีพรรครีพับลิกันเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่ง CBS NEWS รายงานว่า มีผู้ว่าการรัฐในปีกพรรครีพับกลิกัน ประกาศที่จะไม่ยอมถูกวอชิงตันแบล็กเมล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส แดน แพทริก (Dan Patrick) ที่ได้ออกมายืนยันว่า “ทางรัฐยอมที่จะเสียเงินอุดหนุนจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ ดีกว่าที่จะยอมให้รัฐบาลวอชิงตันของประธานาธิบดีบารัค โอบามาออกคำสั่งนโยบายห้องน้ำกับนักเรียนจำนวนร่วม 5.2 ล้านคนของรัฐ”
และแพทริกยังยืนยันโดยกล่าวต่อว่า “ทางเราจะไม่ยอมถูกแบล็กเมลโดยเงินสินบนจำนวนเล็กน้อยของโอบามาอย่างแน่นอน”
ในขณะที่ร็อดนี คาฟเนส (Rodney Cavness) ผู้อำนวยการเขตการศึกษา พอร์ต เนเชส-กรูฟส์ สคูล ดิสตริก(Port Neches-Groves school district) ประจำรัฐเทกซัสได้ให้ความเห็นเรื่องนี้กับสื่อท้องถิ่น KFDM ในบิวมองต์( Beaumont) ว่า “เมื่อใดก็ตามที่ผมได้จดหมายฉบับนี้ ผมจะทิ้งไปทันที”
CBS NEWS รายงานต่อว่า นอกจากผู้ว่าการรัฐเทกซัสที่ไม่เห็นด้วยในคำสั่งตรงจากวอชิงตันในเรื่องนี้แล้ว ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี แมตต์ เบวิน(Matt Bevin) ยังให้ความเห็นต่อนโยบายห้องน้ำเพศที่ 3 อย่างมึนงงว่า “ถือเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกินความคาดหมายที่เห็นรัฐบาลกลางยื่นมือเข้ามาข้องเกี่ยวในปัญหาระดับรัฐ”
แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะมีแต่ผู้ว่าการรัฐที่ไม่เห็นด้วยในนโยบายนี้ เพราะสื่อสหรัฐฯชี้ว่า ผู้ว่าการรัฐจากรัฐเวอร์มอนต์ และรัฐวอชิงตัน ได้ชื่นชมความกล้าหาญในการตัดสินใจออกคำสั่งแนวทางปฎิบัติถึงห้องน้ำนักเรียนเพศที่ 3 โดยต่างกล่าวว่า เป็นการสอดคล้องกับนโยบายระดับรัฐที่ได้ออกใช้