xs
xsm
sm
md
lg

มาเลย์ยันชิ้นส่วนที่พบเมื่อต้นปีมาจากเที่ยวบิน MH370 เกือบ 100%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชิ้นส่วนที่พบเกยตื้นอยู่บนเกาะโรดริเกซ  มีใช้เฉพาะกับเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลนส์เท่านั้น
เอเจนซีส์ - ทางการมาเลเซียแถลงภายหลังได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญนานาชาติว่า ชิ้นส่วนเครื่องบินสองชิ้นที่พบในแอฟริกาใต้และมอริเชียสเมื่อต้นปีเป็นของ MH 370 ที่หายไร้ร่องรอยมากว่าสองปีค่อนข้างแน่นอน

รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย เหลียว เตียง ไล่ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (12) ว่า ชิ้นส่วนทั้งสองที่พบบนชายหาดในแอฟริกาใต้และมอริเชียสในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะครอบเครื่องยนต์ที่มีโลโก้โรลส์รอยซ์บางส่วนประทับอยู่ และอีกชิ้นเป็นชิ้นส่วนจากห้องนักบิน ซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนภายในเครื่องบินชิ้นแรกที่พบ

เหลียวเสริมว่า ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติในออสเตรเลียสรุปว่า เกือบแน่นอนว่าชิ้นส่วนทั้งคู่มาจาก MH370 ที่หายสาบสูญระหว่างเส้นทางจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังปักกิ่งเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน

จากข้อมูลล่าสุดจึงสรุปได้ว่า จนถึงขณะนี้พบซากชิ้นส่วนที่ได้รับการระบุว่าเป็นไปได้ หรือเป็นที่แน่นอนว่ามาจากเครื่องบินลำดังกล่าว 5 ชิ้น และทั้งหมดพบจากสถานที่ที่ห่างไกลจากพื้นที่ค้นหาปัจจุบันหลายพันกิโลเมตร

ชิ้นส่วนแรกที่ค้นพบคือชิ้นส่วนปีกที่ลอยเกยชายหาดของเกาะเรอูนียงในมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับมอริเชียส เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการยืนยันจากทางการมาเลเซียว่าเป็นชิ้นส่วนของ MH370 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส

หลังจากนั้นมีผู้ค้นพบชิ้นส่วนอีกสองชิ้นห่างกันประมาณ 220 กิโลเมตรในโมซัมบิกในเดือนธันวาคม 2015 และ 2016 ซึ่งสำนักงานความปลอดภัยในการขนส่งของออสเตรเลีย (ATSB) ระบุภายหลังการตรวจสอบว่า เกือบแน่นอนว่ามาจากเครื่องบินของมาเลเซีย

สำหรับชิ้นส่วนล่าสุดสองชิ้น ชิ้นหนึ่งพบที่อ่าวมอสเซลในแอฟริกาใต้ เป็นชิ้นส่วนโลหะครอบเครื่องยนต์และมีโลโก้โรลส์รอยซ์ประทับอยู่ ซึ่งแม้ไม่มีสิ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับ MH370 แต่ ATSB ระบุว่าโลโก้ดังกล่าวสอดคล้องกับโลโก้ที่พัฒนาและใช้โดยมาเลเซีย แอร์ไลน์ส

อ่าวมอสเซลอยู่ห่างจากวิลันคูโล เมืองตากอากาศของโมซัมบิกที่พบชิ้นส่วน MH370 ชิ้นแรกๆ กว่า 2,000 กิโลเมตร

ATSB สรุปว่า ชิ้นส่วนจากโลหะครอบเครื่องยนต์ชิ้นนี้เกือบแน่นอนว่าเป็นของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เลขทะเบียน 9M-MRO ซึ่งก็คือเครื่องบินที่ดำเนินการด้วยรหัส MH370 นั่นเอง

ส่วนอีกชิ้นที่พบที่เกาะโรดริเกซในมอริเชียสเป็นชิ้นส่วนในห้องนักบินที่มีใช้เฉพาะในเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์สเท่านั้น โดยเป็นชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับประตูห้องนักบิน Door R1 ซึ่งเกือบแน่นอนว่าเป็นของเครื่องบินเลขทะเบียน 9M-MRO

สำหรับชิ้นส่วนอีกสองชิ้นที่พบก่อนหน้านั้น ชิ้นหนึ่งที่พบในโมซัมบิกและมีหมายเลขประทับอยู่ ถูกระบุว่าเป็นชิ้นส่วนจาก flap track ของปีกขวาของโบอิ้ง 777 และมีลวดลายที่ยืนยันว่าเป็นลวดลายที่มาเลเซีย แอร์ไลน์สใช้

อีกชิ้นที่มีวลี “ห้ามเหยียบ” ประทับอยู่ เป็นชิ้นส่วนแผงแพนหางระดับของโบอิ้ง 777 ที่มีลวดลายที่ใช้โดยมาเลเซีย แอร์ไลน์สเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นแกนนำการค้นหา MH370 ในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ซึ่งเชื่อว่า เป็นจุดที่เครื่องบินลำดังกล่าวตก โดยได้ทำการสำรวจใต้พื้นมหาสมุทรแล้วเป็นอาณาบริเวณ 105,000 ตารางกิโลเมตรแต่ไม่พบเบาะแสใดๆ

ดาร์เรน เชสเตอร์ รัฐมนตรีคมนาคมออสเตรเลีย มองแง่ดีว่า อาจพบหลักฐานเพื่อไขปริศนาการสูญหายของ MH370 และรัฐบาลออสเตรเลียจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลมาเลเซียและจีนต่อไป

ทว่า ทั้งสามชาติแถลงร่วมกันว่ามีแนวโน้มว่าจะยุติปฏิบัติการนี้ หากค้นหาจนทั่วบริเวณ 120,000 ตารางกิโลเมตรตามที่กำหนดไว้และไม่พบหลักฐานใดๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น