เอเจนซีส์ - สื่อมวลชนอังกฤษรายงานในวันพุธ (11 พ.ค.) ว่า ในคลิปวิดีโอที่ถ่ายโดยช่างภาพอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษเมื่อวันอังคาร (10) ได้บันทึกพระราชดำรัสที่พระองค์ทรงตำหนิเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนหลายคนว่า “หยาบคาบมาก” ในช่วงการเยือนอย่างเป็นรัฐพิธีของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงสื่อยังเผยแพร่คลิปอีกชุดหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน วิจารณ์ไนจีเรียและอัฟกานิสถานว่า “อาจเป็นสองประเทศที่คอร์รัปชันกระฉ่อนที่สุดในโลก”
ช่างภาพได้บันทึกวิดีโอดังกล่าว ขณะควีนเอลิซาเบธทรงอยู่ในงานพระราชทานเลี้ยงที่สวนของพระราชวังบักกิงแฮม และมีพระราชดำรัสเช่นนี้โดยดูเหมือนมิได้ทรงระมัดระวังป้องกันอะไร
โดยเมื่อเลขาธิการพระราชวังเบิกตัว ลูซี โดราซี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลอังกฤษ เข้าเฝ้าฯ นั้น เขาได้กราบทูลแนะนำว่า เธอเป็นผู้รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยระหว่างที่ประธานาธิบดี สี และภริยา เยือนอังกฤษอย่างเป็นรัฐพิธีเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และควีนเอลิซาเบธตรัสว่า “โชคร้ายจริง”
โดราซีตอบกลับว่า ไม่แน่ใจว่าควีนทรงทราบหรือไม่ แต่งานนั้นถือเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับเธอ และควีนทรงตอบว่า พระองค์ทราบ ก่อนตรัสต่อไปว่า พวกสมาชิกคณะผู้แทนจีน “หยาบคายกับเอกอัครราชทูตของเรามาก”
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลขานรับว่า คณะผู้แทนจีนหยาบคายมากและไม่มีมารยาททางการทูต พร้อมเล่าว่า คณะเจ้าหน้าที่ชาวจีนได้เดินออกจากการประชุมที่แลงคาสเตอร์เฮาส์ พร้อมยืนยันยุติการประชุม และเดินหนีตน และบาร์บารา วูดเวิร์ด เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศจีน
ยังไม่มีการระบุหรืออธิบายว่าบุคคลฝ่ายจีนที่ถูกตำหนิเป็นใคร และทางการจีนยังไม่ได้ออกมาตอบโต้ใดๆ
ขณะที่บีบีซีตลอดจนหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ของอังกฤษรายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบักกิงแฮมว่า ของดแสดงความเห็นเกี่ยวกับพระราชปฏิสันถารเป็นการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถ แต่ย้ำว่า การเยือนอย่างเป็นทางการของจีนเมื่อปลายปีที่แล้วประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง และทุกฝ่ายร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การเยือนราบรื่นที่สุด
หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน ของอังกฤษ ระบุว่า ภาพเคลื่อนไหวที่มีบทสนทนาชิ้นนี้ถูกเผยแพร่สู่สื่อสารมวลชนในประเทศโดยสำนักพระราชวังบักกิงแฮม โดยที่บีบีซีอธิบายว่า วิดีโอเหล่านี้ถ่ายโดยช่างภาพซึ่งทำหน้าที่คอยบันทึกพระราชกรณียกิจต่างๆ ส่งให้แก่สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ในอังกฤษ
ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงนายกรัฐมนตรีคาเมรอนก็ถูกจับภาพเมื่อวันอังคาร (10) เช่นกัน ระหว่างการบรรยายต่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง และจัสติน เวลบี สังฆนายกแห่งแคนเทอร์เบอรี ณ พระราชวังบักกิงแฮม ก่อนการประชุมสุดยอดว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตที่ตัวเขาเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในลอนดอนในวันพฤหัสบดี (12)
นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า ผู้นำบางคนจากบางประเทศที่คอร์รัปชันอย่างเหลือเชื่อกำลังเยือนอังกฤษ
“ไนจีเรียและอัฟกานิสถานอาจเป็นสองประเทศที่คอร์รัปชันมากที่สุดในโลก” คาเมรอนสำทับ
ทว่า เวลบีที่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทน้ำมันในแอฟริกาตะวันตกก่อนละวางทางโลกเข้าสู่คริสตจักร และเคยสะสางความขัดแย้งในไนจีเรีย ตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีไนจีเรียไม่ได้คอร์รัปชัน และคาเมรอนเห็นด้วยว่าเขามีความพยายามจริงที่ปราบปรามเรื่องนี้
รายงานไม่ได้ชี้ชัดว่าบุคคลที่ถูกพาดพิงเป็นใคร ที่แน่ๆ คือ ทั้งประธานาธิบดี มูฮัมมาดู บูฮารีของไนจีเรีย และประธานาธิบดี แอชราฟ กานีของอัฟกานิสถาน ต่างได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมสุดยอดที่ลอนดอนทั้งคู่
ทางด้าน การ์บา เชฮู โฆษกของประธานาธิบดีไนจีเรียติติงผ่านโลกออนไลน์ว่า การแสดงความคิดเห็นของคาเมรอนเกี่ยวกับการคอร์รัปชันทำให้ไนจีเรีย “อึดอัด” และตอบโต้ว่า ผู้นำอังกฤษคงติดกับภาพเก่าๆ ของไนจีเรีย ทั้งที่ขณะนี้ปัญหาคอร์รัปชันและเรื่องต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ทั้งนี้ บูฮารีเริ่มโครงการปราบปรามการทุจริตอย่างกว้างขวางนับจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว และเขามีกำหนดขึ้นปราศรัยเรื่องนี้ที่ลอนดอนในวันพุธ
ขณะเดียวกัน กานีก็ให้คำมั่นในการจัดการปัญหาคอร์รัปชันที่ลุกลามเกินควบคุมในอัฟกานิสถานหลังจากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2014
ทางด้านโฆษกหญิงของรัฐบาลอังกฤษปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทสนทนาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งบูฮารีและกานีต่างรับรู้ระดับความรุนแรงของปัญหาทุจริตที่ทั้งคู่ต้องเผชิญในประเทศของตนเอง และว่า ในร่างคำปราศรัยที่จะเผยแพร่ในที่ประชุมสุดยอด กานีเองระบุว่า อัฟกานิสถานเป็นหนึ่งในประเทศที่คอร์รัปชันมากที่สุดในโลก ส่วนบูฮารีเขียนไว้ว่า คอร์รัปชันกลายเป็นส่วนหนึ่งของ “วิถีชีวิต” ภายใต้รัฐบาลประชาธิปไตยที่น่าเชื่อถือ
โฆษกรัฐบาลอังกฤษทิ้งท้ายว่า ผู้นำทั้งคู่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมสุดยอดเนื่องจากต่างมุ่งมั่นต่อสู้กับการคอร์รัปชันในประเทศของตนเอง