เอเจนซีส์ - ศาลสูงอิตาลีออกคำพิพากษาในวันจันทร์ (2 พ.ค.) ให้ โรมัน ออสเตรียคอฟ (Roman Ostriakov) ชายจรจัดสัญชาติยูเครนวัย 36 ปี ที่กระทำความผิดขโมยไส้กรอกและชีส มูลค่าไม่เกิน 5 ดอลลาร์ จากซูเปอร์มาร์เก็ตในอิตาลี 5 ปีก่อนหน้านี้ ไม่มีความผิดในข้อหาลักทรัพย์ เหตุเพราะกระทำไปด้วยความหิวโหย ถือเป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์การตัดสินครั้งสำคัญที่เตือนเราทุกคน ว่า ในประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ควรปล่อยให้ผู้ใดต้องตายเพราะความหิวโหย
ดิ อินดิเพนเดนต์ สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (4 พ.ค.) ว่า เมื่อ 5 ปี ก่อนหน้านี้ ชายจรจัดสัญชาติยูเครน โรมัน ออสเตรียคอฟ (Roman Ostriakov) วัย 36 ปี ถูกสั่งปรับด้วยจำนวนเงินถึง 115 ดอลลาร์ พร้อมทั้งถูกลงโทษด้วยการจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในปี 2015 จากความผิดที่เขาได้แอบขโมยไส้กรอก และ ชีส ราคาไม่เกิน 5 ดอลลาร์ จากซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเจนัว (Genoa) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี ในปี 2011
ซึ่ง เทเลเกราฟ สื่ออังกฤษ ชี้ว่า ทนายความของออสเตรียคอฟได้ยื่นขออุทธรณ์ในขณะนั้น แต่ทว่าการจำคุกยังคงดำเนินหน้าต่อไป และชายชาวยูเครนผู้นี้ไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้
และในกระบวนการยื่นคำอุทธรณ์ขั้นที่ 2 และขั้นสุดท้าย ซึ่งถือเป็นสิทธิที่ผู้ต้องโทษทุกคนภายใต้กฎหมายอิตาลีได้รับนั้น มีการกลับคำพิพากษาเกิดขึ้น และทำให้การลงโทษจำคุกของออสเตรียคอฟต้องถูกยกเลิกไป
โดยในวันจันทร์ (2 พ.ค.) ที่ผ่านมา ศาลสูงอิตาลีในกรุงโรมกลับคำตัดสินให้ออสเตรียคอฟไม่ต้องมีความผิดรับโทษ
“จากสภาพของผู้ถูกกล่าวหา และสถานการณ์ที่ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ทรัพย์สินในมือ แสดงให้เห็นว่าเขาได้ขโมยอาหารจำนวนเล็กน้อย เพื่อประทังความหิวโหยของตัวเองให้ได้อยู่รอดต่อไป” รายงานจากคำพิพากษาศาลสูงอิตาลี และในคำพิพากษายังกล่าวต่อว่า “คนไม่ควรต้องได้รับการถูกลงโทษ หากต้องลงมือทำไปเพราะความจำเป็น ซึ่งต้องลงมือขโมยอาหารเพื่อทำให้ชีวิตของตัวเองอยู่รอดต่อมื้อ”
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า หลังจากคำตัดสินออกมา หนังสือพิมพ์อิตาลี La Stampa ได้แสดงความชื่นชมคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ผ่านหน้าความเห็นจากกองบรรณาธิการว่า “เป็นการตัดสินครั้งสำคัญที่เตือนเราทุกคนว่า ในประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ควรปล่อยให้ผู้ใดต้องตายเพราะความหิวโหย”
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์อิตาเลียนอีกฉบับ Corriere Della Sera ได้กล่าวถึงคำตัดสินครั้งนี้ผ่านเซคชัน “โอพิเนียน” ด้วยวาจาเผ็ดร้อนว่า จากสถิติแสดงให้เห็นว่า อิตาลีมีตัวเลขความยากจนเพิ่มมากขึ้นกว่า 615 คนในแต่ละวัน และคำตัดสินครั้งล่าสุดนี้ ไม่สะท้อนภาพความเป็นจริงของอิตาลีแต่อย่างใด
ดิ อินดิเพนเดนต์ รายงานต่อว่า แต่ทว่าสื่ออิตาลีอีกแห่ง Italiaglobale.it ได้กล่าวชื่นชมคำตัดสินของศาลสูงแดนมะกะโรนีในวันจันทร์ (2 พ.ค) ว่า “ถือเป็นการตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องและสมเหตุสมผล” และยังกล่าวชื่นชมต่อว่า “คำตัดสินนั้นมีรากฐานมาจากแนวความคิดที่ได้หล่อเลี้ยงโลกตะวันตกมานานหลายศตวรรษแล้วที่รู้จักในนาม “มนุษยธรรม”
ทั้งนี้ สื่ออังกฤษชี้ว่า อย่างไรก็ตาม ในการยื่นอุทธรณ์ของออสเตรียคอฟ ซึ่งได้ระบุว่า โทษของชายผู้นี้สมควรที่จะได้รับการลดโทษเนื่องมาจากในขณะที่ถูกจับกุม ออสเตรียคอฟยังไม่ได้ออกไปจากร้าน
