ศาลสั่งรบ.เอธิโอเปียจ่ายชดเชยหลายล้าน ฐานล้มเหลวป้องเหยื่อข่มขืน-ถูกบังคับแต่งงานกับคนร้าย

รอยเตอร์ - รัฐบาลเอธิโอเปียถูกศาลสั่งจ่ายเงิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว5.2ล้านบาท) ให้แก่เด็กหญิงคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อข่มขืน ลักพาตัว และถูกบังคับให้แต่งงานกับคนร้ายตอนอายุ 13 ปี คำพิพากษาครั้งสำคัญที่เหล่านักเคลื่อนไหวหวังว่าจะขจัดวัฒนธรรมการสมรสตั้งแต่เด็กที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โวอิเนเชต์ เซเบเน เนกาส ซึ่งถูกข่มขืนในปี 2001 ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและสิทธิประชาชนชนแอฟริกาซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแกมเบีย เมื่อปี 2007 หลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำตัดสินที่เคยสั่งลงโทษคนร้าย

"มันเป็นการกระทำที่ราวอยู่ในยุคโบราณ เมื่อชายคนหนึ่งจะไล่ล่าผู้หญิงที่เขาเลือก ใช้ตะบองทุบตีศีรษะของเธอ จิกผมเธอลากไปยังที่พักอาศัยของเขา จากนั้นก็ลงมือข่มขืน" ศาลเผยแพร่คำพิพากษาช่วงกลางสัปดาห์ทีผ่านมา

ศาลระบุว่าเอธิโอเปียต้องจ่ายเงินชดเชยแก่ โวอิเนเชต์ เพราะว่าล้มเหลวในการปกป้องเธอหรือมอบความยุติธรรมแก่เหยื่อ

การสมรสตั้งแต่เด็กเป็นปัญหาใหญ่ในเอธิโอเปีย ด้วยเด็กสาวราว 1 ใน 2 ของประเทศ แต่งงานตั้งแต่อายุไม่ถึง 18 ปี โดยหลายกรณีเป็นวิธีปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ในนั้นรวมถึงการถูกบังคับแต่งงานหลังจากโดนลักพาตัว อย่างเช่นกรณีของ โวอิเนเชต์ และบังคับสมรสระหว่างลูกพี่ลูกน้อง

บ่อยครั้งที่ครอบครัวเหยื่อยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับคนร้ายที่ลงมือข่มขืน เพียงเพราะความอายที่พวกเธอสูญเสียความบริสุทธิ์ "การใช้สอยเด็กผู้หญิงราวกับสิ่งของในเอธิโอเปียและทั่วโลกต้องยุติลง" ไฟซา โมฮัมเมด ผู้อำนวยการกลุ่มสิทธิมนุษยชน "อีคัวลิตีนาว" ประจำภูมิภาคแอฟริกากล่าว "เราก็ได้แต่หวังว่าสารจากคำพิพากษานี้จะก่อแรงกระเพื่อมแก่สังคมในทุกระดับ"

โฆษกของรัฐบาลเอธิโอเปีย ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อคดีนี้ในวันศุกร์(11มี.ค.)

โวอิเนเชต์ บอกว่าเธอถูกชายหลายคนลักพาตัวไปจากบ้านพักในปี 2001 หนึ่งในนั้นคือนายอเบริว เจมมา เนกุสซี่ ที่ข่มขืนเธอ

ตำรวจเข้าช่วยเหลือ โวอิเนเชต์และจับกุมนายอเบริว แต่หลังจากได้รับการประกันตัว เขาก็ลงมือลักพาตัวเธออีกรอบ คราวนี้กักขังเด็กสาวไว้นานเกือบ 1 เดือนและบังคับใช้เธอเขียนหนังสือยินยอมแต่งงาน

อย่างไรก็ตาม โวอิเนเชต์ หลบหนีออกมาได้และนายอเบริว ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 10 ปีในปี 2003 ส่วนเหล่าผู้สมคบคิดโดนโทษจำคุก 8 ปี ทว่า 5 เดือนต่อมา ชายทั้งหมดกลับได้รับอิสรภาพ หลังศาลอุทธรณ์พบว่าอัยการไม่สามารถพิสูจน์คดีนี้ได้ และเหยื่อยินยอมพร้อมใจมีเพศสัมพันธ์ด้วย

ภายใต้กฎหมายฉบับหนึ่งที่ถูกยกเลิกไปในปี 2005 ระบุว่าไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดกับมือข่มขืนได้ หากว่าเหยื่อลงนามในสัญญาอย่างอิสระว่าจะแต่งงานกับคนร้าย แต่เวลานั้น อีคัวลิตีนาว โต้แย้งว่าการสมรสกันของทั้งคู่ไม่ชอบธรรมตามกฎหมาย เพราะว่า โวอิเนเชต์ ลงนามในสัญญาเพราะถูกข่มขู่

รัฐบาลเอธิโอเปียบอกกับศาลว่าพวกเขาได้บรรลุข้อตกลงยุติคดีอย่างเป็นมิตรกับ โวอิเนเชต์ ด้วยมอบบ้านให้เธอ 1 หลังและหางานให้ทำ แต่ศาลระบุว่ารัฐบาลไม่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้ ขณะที่ทาง อีคัวลิตีนาว เผยว่า โวอิเนเชต์ พยายามขอลี้ภัยในต่างแดนตลอดมา