นักเคลื่อนไหวฮินดูพาตำรวจบุกขวาง “งานแต่งคริสต์” ในอินเดีย-อ้างเจ้าสาวโดนบังคับเปลี่ยนศาสนา

เอเอฟพี - กลุ่มนักเคลื่อนไหวฮินดูพาตำรวจบุกเข้าไปกลางงานแต่งงานที่โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งในอินเดีย โดยอ้างว่าศาสนาจารย์ประจำโบสถ์บังคับให้เจ้าสาวซึ่งเป็นชาวฮินดูเปลี่ยนไปนับถือคริสต์

ชุมชนชาวคริสต์ในอินเดียต่างร้องเรียนว่า โบสถ์และคริสตชนเริ่มตกเป็นเหยื่อของการโจมตีโดยชาวฮินดูหัวรุนแรงบ่อยขึ้น ก่อให้เกิดคำถามเรื่องเสรีภาพด้านการนับถือศาสนาในแดนภารตะซึ่งเป็นรัฐทางโลก (secular country)

ขณะที่กำลังมีพิธีแต่งงานภายในโบสถ์ เชิร์ช ออฟ ก็อด (Church of God) ในรัฐมัธยประเทศ กลุ่มนักเคลื่อนไหวฮินดูหัวรุนแรง บัจรัง ดาล (Bajrang Dal) ได้พาตำรวจบุกเข้าไปกลางงาน และมีผู้ถูกจับกุม 10 คน โฆษกของโบสถ์เผย

นักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้ อ้างว่า โบสถ์และมิชชันนารีพยายามโน้มน้าวชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มคนยากจนให้เปลี่ยนไปนับถือคริสต์ ซึ่งศาสนาจารย์ประจำโบสถ์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

“พวกเขาอ้างว่า เราใช้วิธีบังคับเปลี่ยนศาสนา และได้จับกุมตัวเจ้าสาว เจ้าบ่าว พ่อแม่ รวมถึงศาสนาจารย์จากโบสถ์ 2 แห่งที่มาประกอบพิธีแต่งงาน” มารีโยช โจเซฟ โฆษกของโบสถ์ในเขตสัตนา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

“พวกคุณบุกเข้ามาในศาสนสถานขณะที่กำลังมีพิธีศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ได้หรือ? เรื่องแบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นในวัดหรือมัสยิดเด็ดขาด”

ผู้กำกับการตำรวจท้องที่ระบุว่า พิธีแต่งงานถูกยับยั้งกลางคันเนื่องจากเจ้าสาวเป็นชาวฮินดู และอายุยังไม่ถึง 18 ปี

“เด็กสาวคนนี้เป็นชาวฮินดู และอายุก็แค่ 17 ปี เราเพียงแต่ทำตามคำร้องเรียนของลุงเจ้าสาว และกำลังสอบสวนเรื่องนี้อยู่” มิธิเลศ ศุคลา ผู้กำกับการตำรวจ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

หนังสือพิมพ์ ดิ อินเดียน เอ็กซ์เพรส รายงานว่า คู่บ่าวสาวได้เปลี่ยนไปนับถือคริสต์เมื่อ 4 ปีก่อน แต่ไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานของรัฐรับทราบ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมตามกฎหมายอินเดีย

ทางโบสถ์ยืนยันว่าเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเป็นชาวคริสต์ พร้อมระบุว่าตำรวจกำลังหาข้ออ้างมากลบเกลื่อนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา มีชายชาวฮินดู 3 คน ถูกจับกุมที่รัฐฉัตติสครห์ หลังบุกเข้าไปทำลายข้าวของภายในโบสถ์ซึ่งกำลังมีพิธีสวดมนต์วันอาทิตย์ และเมื่อปีที่แล้วก็มีแก๊งอันธพาลเอาโซ่สำหรับจูงสุนัขไปคล้องพระศอรูปปั้นพระแม่มารีที่เมืองอัครา

บาทหลวงและผู้นำคริสตชนในอินเดียชี้ว่า กลุ่มชาวฮินดูหัวรุนแรงมีพฤติกรรมเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี จากพรรคฮินดูขวาจัดภารติยะชนตะ เข้ามาปกครองประเทศในปี 2014 และบางครั้งยังใช้วิธีโน้มน้าวหรือให้เงินจูงใจแก่ชาวมุสลิมและคริสต์ จนทำให้มีผู้หันไปรับนับถือฮินดูเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก