เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(26 เม.ย)เอเธนส์ส่งตัวผู้อพยพกลับคืนไปยังตุรกีจำนวน 49 คน ภายใต้ข้อตกลงอียู-ตุรกีที่อื้อฉาวเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตผู้อพยพ เกิดขึ้น 3 สัปดาห์หลังจากเริ่มการส่งล็อตแรก ในขณะที่สหภาพตำรวจเยอรมันนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน( North Rhine-Westphalia)ได้โพสต์ภาพอดีตศูนย์ผู้อพยที่มีทั้งคราบอสุจิ คราบเลือด และคราบอุจจาระ รวมไปถึงอาหารที่ถูกทิ้งไว้และมีแมลงสาบแทะ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องสละที่พักให้กองทัพหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เข้าพัก ต้องยอมนอนในรถตู้จอดในสวนสัตว์เปิดแทน
เอเอฟพีรายงานวันนี้(27 เม.ย)ว่า การส่งตัวผู้อพยพรอบล่าสุดเกิดขึ้นท่ามกลางความตรึงเครียดที่ปะทุขึ้นภายในค่ายผู้ลี้ภัยบนเกาะเลสบอสในระหว่างการเดินทางมาตรวจการณ์ของรัฐมนตรีการอพยพกรีซ ยานนิส เมาซาลาส( Yannis Mouzalas)
ซึ่งแหล่งข่าวรัฐบาลกรีซได้ให้ข้อมูลกับเอเอฟพีว่า เหตุความเข้าใจผิดทำให้เกิดความไม่สงบภายในศูนย์ผู้อพยพโมเรีย แคมป์(Moria camp)บนเกาะเลสบอส ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายเกาะของกรีซที่ผู้อพยพได้พยายามขึ้นฝั่งเพื่อมุ่งหน้าสู่ยุโรป
และแหล่งข่าวกรีซยังกล่าวต่อว่า ผู้เยาว์ที่เดินทางมาคนเดียวได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงภายในโมเรีย แคมป์มากที่สุด
ซึ่งภาพถ่ายในเหตุการณ์ที่ถูกโพสต์บนทวีตเตอร์แสดงให้เห็นว่า มีกองขยะถูกเผา และผู้อพยพบางส่วนที่อาศัยอยู่ในแคมป์แห่งนี้ถูกอพยพออกไป ในขณะที่มีบางคนได้ทวีตว่า ตำรวจกรีซได้ใช้ความรุนแรงกับผู้อพยพวัยรุ่นชายจนทำให้ลงไปนอนกองกับพื้น แต่อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีชี้ว่า ข้อมูลนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน
เอเอฟพีรายงานต่อว่า ศูนย์ผู้อพยพโมเรียแคมป์มีความตรึงเครียดเกิดขึ้นอยู่ภายในเมื่อข้อตกลงการส่งตัวผู้อพยพของอียู-ตุรกีบรรลุในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันนี้ศูนย์ผู้อพยพแห่งนี้มีผู้ลี้ภัยอาศัยจำนวน 3,000 คนรอฟังข่าว
“คนเหล่านี้วิตกกังวลและเครียดเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง” บอริส เชเชอร์คอฟ (Boris Cheshirkov) โฆษก UNHCR สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติบนเกาะเลสบอสแถลง
และเชเชอร์คอฟยังแถลงต่อว่า “ในช่วงไม่กี่วันมานี้มีความตรึงเครียดเกิดขึ้นเป็นลำดับที่มาพร้อมกับความรุนแรง” และยังชี้ว่า ความรุนแรงถูกระงับลงได้สำเร็จในช่วงบ่าย
ซึ่งภายใต้ข้อตกลงนี้ ผู้ลี้ภัยที่ไม่เข้าข่ายได้รับข้อเสนอ จะต้องถูกส่งตัวกลับ โดยในการส่งตัวผู้อพยพใน 2 ชุดแรกจำนวนทั้งหมด 325 คนซึ่งเกิดขึ้น 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้กลับไปยังตุรกี โดยมีรายงานว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่ที่ต้งอถูกส่งตัวกลับมาจากปากีสถานและอัฟกานิสถาน
และสำหรับในชุดที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นในวันอังคาร(26 เม.ย)มีจำนวนผู้อพยพที่ถูกส่งตัวกลับจำนวน 49 คน ซึ่งมาจากเกาะ คอส(Kos) เกาะเลสบอส(Lesbos) และเกาะไคออส( Chios) ซึ่งคนเหล่านี้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนอียู ฟรอนเทกซ์(Frontex) ประกอบไปด้วยชาวพม่า ชาวอิหร่าน 5 คน ชาวปากีสถาน 4 คน และชาวจอร์แดน 1 คน
ในขณะที่สถานการณ์ผู้อพยพล่าสุด สื่ออังกฤษ เดลิเมล รายงานว่า ทางสหภาพตำรวจเยอรมันนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน( North Rhine-Westphalia)ได้โพสต์ภาพอันน่าหดหู่ของอดีตศูนย์ผู้อพยพที่ถูกทิ้งล้าง และทางเมืองได้ส่งให้บรรดาเจ้าหน้าที่ไปเข้าพักในระหว่างการเยือนเยอรมันของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอ บามา เพราะที่พักของพวกเขาถูกใช้เป็นที่พักของกองทัพหน่วยรักษาความปลอดภัยสหรัฐฯแทน
ซึ่งภาพที่บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันเห็นหลังจากเข้าไปสำรวจภายในศูนย์ลี้ภัยแห่งนี้กลับเป็นสิ่งที่น่าอนาจเกินคำบรรยาย เพราะมีทั้งคราบอุจจาระและปัสสาวะทิ้งเรี่ยราดเกลื่อนพื้น
รวมไปถึงมีคราบเลือด รวมไปถึงคราบน้ำอสุจิเปื้อน ในขณะที่มีแมลงสาบกำลังแทะอาหารที่เหลือทิ้ง
และทำให้ตำรวจเยอรมันทั้งหมด 250 คนปฎิเสธการเข้าพักอย่างสิ้นเชิง และทำให้พวกเขาตัดสินใจนอนในรถตู้จอดภายในสวนสัตว์เปิดเซเรนเกติ ปาร์ก( Serengeti Park)โฮเดนฮาร์เกน (Hodenhagen) ทางตอนเหนือของเยอรมัน ในช่วงก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำ G5 จะเริ่มเปิดฉากขึ้นในเมืองฮันโนเวอร์ ซึ่งสวนสัตว์เปิดแห่งนี้มีสัตว์อาศัยอยู่จำนวน 1,500 ตัว
