เอพี/เอเอฟพี - ภายใต้กำลังเจ้าหน้าที่อย่างแน่นหนา เอเธนส์เริ่มต้นเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 202 คนจากค่ายผู้อพยพบนเกาะเลสบอสและเกาะไคออสกลับคืนตุรกีตามข้อตกลงระหว่างอียู-อังการา ซึ่งถือเป็นล็อตแรกของการส่งตัวกลับในสนธิสัญญาที่เริ่มต้นบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันนี้(4) และมีรายงานว่าทางเอเธนส์เลือกที่จะส่งผู้อพยพกลับทางทะเลมากกว่าทางอากาศ หรือทางบก ในวันเดียวกันที่สนามบินในเมืองฮันโนเวอร์ เยอรมัน กลุ่มผู้อพยพซีเลียล็อตแรกจากตุรกีตามข้อตกลงเดียวกันนี้ ถูกผู้ประท้วงชาวเยอรมันยกป้ายประท้วงต้านไม่ต้อนรับ หลังลงจากเครื่องบิน
เอพีรายงานว่า การเนรเทศเริ่มต้นขึ้นในช่วงรุ่งเช้าของวันนี้(4)ตามเวลาท้องถิ่นกรีซ ซึ่งมีภาพการกวาดต้อนนำตัวผู้อพยพลงเรือเฟอร์รีขนาดเล็ก ท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่รักษาพรมแดนอียู ฟรอนต์เทกซ์(Frontex) ที่อยู่ร่วมในปฎิบัติการนี้ ควบคุมอยู่บริเวณท่าเรือในฝั่งตุรกี
โดยจิออร์กอส ไคริตซิส(Giorgos Kyritsis) โฆษกคณะกรรมการแก้ไขวิกฤตผู้อพยพของเอเธนส์ ได้กล่าวถึงในรายละเอียดผู้ลี้ภัยที่ถูกส่งตัวกลับในล็อตแรกนี้ว่า “คนที่ถูกส่งตัวกลับทั้งหมดเป็นผู้อพยพมาจากปากีสถาน ยกเว้น 2 คนซึ่งมาจากซีเรีย แต่สมัครใจขอเดินทางกลับ” ไคริตซิสแถลง และยังกล่าวต่อถึงเงื่อนเวลาตามข้อตกลงอียู-อังการาว่า “ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลาของการส่งตัวกลับ การตรวจสอบการยื่นเรื่องของผู้อพยพแต่ละรายต้องใช้เวลา”
ทั้งนี้เอพีรายงานว่า มีผู้ลี้ภัยเข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวนมากถึง 4,000 คนที่ถูกส่งตัวเข้าไปยังค่ายผู้อพยพบนเกาะของกรีซนับตั้งแต่ทางสหภาพยุโรปและตุรกีสามารถบรรลุข้อตกลงการแก้ไขวิกฤตผู้ลี้ภัยที่มีผลในวันที่ 20 มีนาคมเป็นต้นมา
และในแถลงการณ์ของตัวแทนคณะกรรมการแก้ไขวิกฤตผู้อพยพกรีซยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีผู้อพยพจำนวน 136 คนถูกนำตัวออกมาจากเกาะเลสบอสและอีก 66 คนมาจากเกาะไคออสซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเอพีรายงานว่าบนเกาะไคออสนี้ ไม่นานก่อนที่กระบวนการเนรเทศกลับจะเริ่มต้นขึ้น ได้มีการปะทะเกิดขึ้นระหว่างตำรวจปราบจลาจลกรีซและชาวเกาะไคออสที่ไม่เห็นด้วยในการเนรเทศผู้อพยพกลับคืนตุรกี
ซึ่งกระบวนการเนรเทศผู้อพยพกลับไปยังตุรกีอยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าตำรวจระดับสูงของกรีซ และยังพบว่าในระหว่างการส่งตัวกลับเป็นไปด้วยความราบรื่น และเรือเฟอร์รีที่บรรทุกผู้อพยพเหล่านี้สามารถเดินทางออกจากท่าเรือและมุ่งหน้าไปสู่เกาะดิคิลิของตุรกี อันเป็นจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ
มีรายงานว่า การเนรเทศกลับเริ่มต้นขึ้นกับบรรดาผู้ลี้ภัยที่ไม่มีหนังสือร้องขอการลี้ภัย หรือได้รับการปฎิเสธ
ด้าน จิออร์กอส คอสโมเปาลอส ( Giorgos Kosmopoulos) หัวหน้าแอมเนสตีประจำกรีซ ได้ให้ความเห็นในเรื่องการส่งตัวกลับของผู้ลี้ภัยว่า “นี่เป็นวันแรกของความยากลำบากในสิทธิ์ของผู้ลี้ภัย เพราะถึงแม้จะพบว่าตุรกีมีปัญหาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายอย่างร้ายแรง รวมไปถึงยังไม่สามารถให้ความคุ้มกันต่อผู้อพยพได้อย่างเหมาะสม แต่ทว่าอียูกลับเดินหน้าทำข้อตกลงฉบับนี้ออกมา”
และคอสโมเปาลอสยังกล่าวต่ออีกว่า “ตุรกีไม่ใช่ประเทศที่ 3 ที่ปลอดภัยสำหรับผู้อพยพ ซึ่งอียูและกรีซต่างตระหนักดีในเรื่องนี้โดยที่ไม่สามารถหาข้อแก้ตัวได้”
หัวหน้าแอมเนสตีประจำกรีซได้กล่าวต่อในระหว่างสังเกตการณ์ส่งตัวกลับผู้อพยพบนเกาะเลสบอสต่อว่า “ถึงแม้กลุ่มแรกที่ถูกส่งกลับจะไม่ใช่ผู้อพยพ แต่สิ่งที่เราเห็นอยู่ในเบื้องหน้านี้คือสัญลักษณ์ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่อาจเรียกได้ว่าเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงในทางปฎิบัติของการเนรเทศกลับคืนสู่ตุรกี”
และเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้(4) ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของแพ็คอียู-อังการาที่ทางฝ่ายสหภาพยุโรปต้องเปิดพรมแดนรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจากอังการาไปพำนักอย่างถูกก้องตามกฎหมายเช่นกัน
ซึ่งมีรายงานว่า หลังจากที่มีผู้ลี้ภัยกลุ่มแรกเดินทางด้วยเครื่องบินจากตุรกีมาถึงท่าอากาศยานเมืองฮันโนเวอร์ เยอรมัน ถูกผู้ประท้วงชาวเยอรมันที่ไม่เห็นด้วยตามข้อตกลงนี้ ได้ถือป้ายประท้วงต้อนรับผู้อพยพในขณะที่คนเหล่านี้เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านตัวสนามบินออกมาบริเวณด้านนอก
ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า บนป้ายประท้วงมีข้อความว่า “ขอให้หนีต่อไปเรื่อยๆ!! ที่นี่ไม่มีอะไรทำให้ต้องปักหลัก เราไม่ต้อนรับผู้ลี้ภัย!!”