เอเจนซีส์ - ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ธนาคารและโกดังเก็บเงินสดของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรียตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้พวกนักรบสุหนี่สูญเงินไประหว่าง 300-800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯ เผยวานนี้ (26 เม.ย.)
ในการแถลงข่าวผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์จากแบกแดดมายังตึกเพนตากอน พล.อ.ต.ปีเตอร์ เกอร์สเตน ผู้บัญชาการปฏิบัติการกองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรียและอิรัก ได้อ้างถึงการโจมตีโกดังเก็บเงินของไอเอสที่นอกเมืองโมซุล (Mosul) ซึ่งสามารถสังหาร ฮัจญี อีมาน รัฐมนตรีคลังของไอเอส และยังลายเงินสดของพวกนักรบญิฮาดไปถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การโจมตีที่เมืองโมซุลเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ ไทดัล เวฟ ทู (Operation Tidal Wave II) ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 2015 โดยมีเป้าหมายในการทำลายแหล่งเงินทุนของไอเอส ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำมัน เครือข่ายธนาคาร หรือโกดังเก็บเงินสด
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินว่าปฏิบัติการดังกล่าวได้ทำให้ไอเอสสูญเสียเงินทุนไประหว่าง 300-800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ปฏิบัติการไทดัล เวฟ นำเราไปสู่แหล่งทุนในธนาคารของไอเอส ซึ่งธนาคารเหล่านั้นก็ได้นำเราต่อไปยังแหล่งกระจายเงินทุน จนไปถึงพวกนักรบต่างชาติในที่สุด” เกอร์สเตน กล่าว
ผลของการตัดท่อน้ำเลี้ยงไอเอสทำให้นักรบต่างชาติที่เดินทางไปสู้รบในซีเรียและอิรักลดลงจากราวๆ 2,000 คนต่อเดือน เหลือเพียง 200 คนต่อเดือน และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังประเมินด้วยว่า เวลานี้ไอเอสน่าจะมีนักรบอยู่ประมาณ 19,000-25,000 คนทั่วอิรักและซีเรีย ถือเป็นตัวเลขประเมินที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2014
“เริ่มเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีเงินพอที่จะจ่าย ไม่มีศักยภาพพอที่จะสู้ และ (นักรบต่างชาติ) ก็เริ่มตีจากดาเอช” เกอร์สเตน กล่าว โดยใช้คำว่า “ดาเอช” ซึ่งเป็นชื่อย่อของกลุ่มไอเอสในภาษาอาหรับ
เมื่อต้นเดือนนี้ เจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานว่า ไอเอสสามารถทำเงินได้ประมาณ 150-200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีจากการขโมยโบราณวัตถุในอิรักและซีเรียไปขายในตลาดมืด
