คณะมนตรีความมั่นคงฯ ประณามโสมแดงทดสอบยิงขีปนาวุธ

เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council) มีมติในวันอาทิตย์ (24 เม.ย.) ประณามเกาหลีเหนือที่ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำเมื่อวันเสาร์ (23) ซึ่งถือเป็นการละเมิดมติของยูเอ็นเอสซีก่อนหน้านี้

คำแถลงบางช่วงบางตอนของทางคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นระบุ ชาติสมาชิกมีความกังวลต่อกิจกรรมด้านขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่มีความเกี่ยวพันกับโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐบาลคอมมิวนิสต์เปียงยาง และยังถือเป็นการเพิ่มความตึงเครียดทั้งในระดับภูมิภาคและนอกภูมิภาค พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางเกาหลีเหนือหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจเป็นการจงใจละเมิดต่อมติที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือท้าทายมติยูเอ็นด้วยการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศเมื่อวันเสาร์ (23) ท่ามกลางความกังวลว่าโสมแดงอาจทดสอบขีปนาวุธก่อนการประชุมใหญ่พรรครัฐบาลในเดือนหน้า ด้านฝรั่งเศสเรียกร้องทันทีให้สหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรแบบฝ่ายเดียวเพื่อสั่งสอนรัฐบาลคอมมิวนิสต์เปียงยาง ขณะที่สหรัฐอเมริกาปฏิเสธข้อเรียกร้องของเกาหลีเหนือในการระงับการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ เพื่อแลกกับการที่เปียงยางยุติการทดสอบนิวเคลียร์

ด้านสำนักงานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพเกาหลีใต้เผยว่า รัฐบาลเปียงยางทำการยิงขีปนาวุธไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อวันเสาร์ (23) เวลาประมาณ 18.30 น. (16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจทดสอบขีปนาวุธก่อนการประชุมใหญ่พรรคแรงงานในเดือนหน้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปีที่คาดกันว่า คิม จอง-อึน ผู้นำประเทศ จะประกาศว่าประเทศของตนมีสถานะเป็น “รัฐนิวเคลียร์” และมหาอำนาจทางทหารที่เข้มแข็ง

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เผยว่า จรวดดังกล่าวของเกาหลีเหนือสามารถยิงไปไกลประมาณ 30 กม. ซึ่งทางกระทรวงฯ กำลังตรวจสอบว่าการยิงทดสอบนี้ประสบความล้มเหลวหรือไม่ ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่าขีปนาวุธลอยอยู่ในอากาศได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

ด้านกองบัญชาการยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาเผยว่า สามารถตรวจจับและติดตามขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือได้ แต่ไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่ออเมริกาเหนือแต่อย่างใด

จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า การยิงจรวดโดยใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธถือเป็นการละเมิดมติหลายข้อของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน เมื่อวันเสาร์ (23) ฝรั่งเศสเรียกร้องให้สหภาพยุโรป (อียู) ออกมาตรการลงโทษฝ่ายเดียวเพิ่มเติมกับเกาหลีเหนือหากการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดได้รับการยืนยัน หลังจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอียูได้ขยายมาตรการลงโทษทางการค้าและการเงินต่อเปียงยางไปแล้ว

เกาหลีเหนือนั้นพยายามยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา และถือว่าอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนาระบบอาวุธดังกล่าว ซึ่งหากทำสำเร็จอาจเป็นภัยคุกคามใหม่ต่อเพื่อนบ้าน รวมถึงสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการทดสอบที่ตามมาหลายครั้งหลังจากนั้นไม่ตรงตามความคาดหวังของโสมแดง ดังจะเห็นได้จากคลิปที่สื่อของทางการนำออกเผยแพร่ที่ดูเหมือนตัดต่อให้ดูว่าการทดสอบประสบความสำเร็จ

ทางฝ่ายกองทัพเกาหลีใต้ประกาศว่า อยู่ในสภาวะเตรียมพร้อมระดับสูงเพื่อรับมือความเป็นไปได้ที่เปียงยางอาจทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 เพื่อท้าทายมาตรการลงโทษของยูเอ็น หลังจากทำการติดตั้งอุปกรณ์ไฮโดรเจนเมื่อเดือนมกราคม

วันพุธที่แล้ว (20) เว็บไซต์แห่งหนึ่งของอเมริกาที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือรายงาน โดยอ้างอิงภาพถ่ายดาวเทียมว่ารัฐบาลเปียงยางฟื้นการขุดอุโมงค์ในบริเวณซึ่งเป็นสถานที่หลักสำหรับทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้ง ดังเช่นที่เคยตรวจพบก่อนการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อเดือนมกราคม

เกาหลีใต้ อเมริกา รวมถึงบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างก็เชื่อว่าเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาระบบขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำ และขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอบีซีเอ็ม) โดยมีอเมริกาอยู่ในพิสัยการยิง

ภายใต้มาตรการลงโทษของยูเอ็นในปี 2006 รวมถึงครั้งล่าสุดในเดือนมีนาคม เปียงยางถูกห้ามไม่ให้ทดสอบนิวเคลียร์ รวมทั้งกิจกรรมใดๆ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ แต่เกาหลีเหนือก็ยังคงเดินหน้าคิดค้นการย่อขนาดหัวรบนิวเคลียร์และการพัฒนาไอบีซีเอ็มอย่างไม่ลดละ

สัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของสหรัฐฯ เตือนว่าเกาหลีเหนือควรเรียนรู้บทเรียนจากอิหร่านที่ตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์โดยแลกกับการที่ประเทศมหาอำนาจตะวันตกยกเลิกมาตรการลงโทษสำคัญ ทว่าไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่าฝ่ายเปียงยางต้องการทำข้อตกลงในลักษณะดังกล่าว

รี ซู ยอง รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีในนิวยอร์กเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เปียงยางพร้อมระงับการทดสอบนิวเคลียร์หากวอชิงตันระงับการซ้อมรบประจำปีร่วมกับเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องเดียวกับเมื่อเดือนมกราคม

ต่อข้อถามว่า อเมริกาจะพิจารณาระงับการซ้อมรบตามคำขอดังกล่าวหรือไม่ เคทินา อดัมส์ โฆษกสำนักงานกิจการเอเชียตะวันออกของอเมริกาตอบว่า การซ้อมรบสะท้อนความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการเป็นพันธมิตรกับเกาหลีใต้และส่งเสริมความพร้อมในการต่อสู้กับภัยคุกคามทุกรูปแบบ