บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปประจำการในซีเรีย พร้อมกับกล่าวยืนยันว่าความพยายามทางทหารเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศซึ่งตกอยู่ในสงครามกลางเมืองอันยืดเยื้อแห่งนี้ได้
“มันจะเป็นความผิดพลาดสำหรับสหรัฐฯ, หรือสำหรับสหราชอาณาจักร ... ถ้าหากส่งกองทหารภาคพื้นดินเข้าไปทำการโค่นล้มระบอบปกครองของ [บาชาร์ อัล-] อัสซาด” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์วิทยุโทรทัศน์บีบีซี
เขาบอกด้วยว่า ไม่คิดว่ากลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) จะประสบความพ่ายแพ้ภายในช่วงเวลา 9 เดือนสุดท้ายแห่งวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาที่ยังเหลืออยู่ แต่ก็ระบุว่า “เราสามารถค่อยๆ ลดค่อยๆ หดสภาพแวดล้อมที่พวกเขาปฏิบัติการลงไปได้”
โอบามา ซึ่งเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 วัน กล่าวในการให้สัมภาษณ์บีบีซีวันเสาร์ (23 เม.ย.) แต่นำมาเผยแพร่ออกอากาศวันอาทิตย์ (24) ว่า ซีเรียเป็น “สถานการณ์ชวนให้ใจแหลกสลายที่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนมากมายมหาศาล”
“การที่เราจะสามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวในซีเรียได้ หนทางแก้ไขด้วยกำลังทหารเพียงอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนทีเดียวว่าเราจะต้องส่งกำลังทหารภาคพื้นดินเข้าไปประจำการด้วยนั้น จะไม่สามารถทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นมาได้หรอก”
โอบามาบอกว่า กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ จะยังคง (ใช้กำลังทางอากาศ) “โจมตีเป้าหมายต่างๆ ของไอซิล (ISIL ชื่อย่ออีกชื่อหนึ่งของกลุ่มไอเอส) ในสถานที่อย่างเช่นเมืองร็อกเกาะฮ์ (Raqqa) และจะต้องพยายามโดดเดี่ยวบริเวณต่างๆ ของประเทศ (ซีเรียซึ่งพวกไอเอสยึดครองอยู่) และปิดล้อมบริเวณต่างๆ ของประเทศ ซึ่งกำลังจัดส่งพวกนักรบต่างชาติเข้าไปยังยุโรป”
แต่เขากล่าวด้วยว่า ประชาคมระหว่างประเทศยังจำเป็นที่จะต้องออกแรงกดดันบีบคั้นทุกๆ ฝ่าย รวมทั้งรัสเซีย, อิหร่าน, กลุ่มฝ่ายค้านหัวไม่รุนแรงในซีเรีย เพื่อให้พวกเขา “นั่งลงเจรจากันบนโต๊ะ และพยายามเป็นตัวกลางทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน (ในซีเรีย)” โดยที่ตัวเขายอมรับว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”
โอบามายังวิพากษ์วิจารณ์พวกประเทศซึ่งรัฐสภาของพวกเขาเองไม่ได้เคยยอมอนุมัติให้เข้าร่วมการปฏิบัติการในซีเรีย ทว่ายังคง “ต้องการให้สหรัฐฯ ทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับซีเรีย” ทั้งนี้เขาย้ำว่า “คุณไม่สามารถที่จะได้ทั้งขึ้นทั้งล่องหรอก”
โอบามากล่าวว่า ซีเรียเป็นประเด็นปัญหาหนึ่งในหลายๆ ปัญหาเวลานี้ ซึ่ง “โดยธรรมชาติแล้วเป็นปัญหาข้ามชาติ (นั่นคือเป็นปัญหาที่ใหญ่โตเกินกว่าเป็นแค่ปัญหาของซีเรียประเทศเดียว) ... และจำเป็นต้องอาศัยการตอบสนองแบบข้ามชาติ”
เขาพูดต่อไปว่า “ผมคิดว่ามีความโน้มเอียงของผู้คนจำนวนมากทีเดียวซึ่งเชื่อว่าเราสามารถที่จะยกสะพานชักขึ้นมา เชื่อว่าเราสามารถที่จะขุดคูล้อมรอบๆ ตัวเราเองขึ้นมา (เพื่อเอาตัวรอดไปโดยลำพัง) และไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในทั่วโลกได้”
ทว่าเมื่อไม่มีความร่วมมือกันและไม่มีการจับมือเป็นพันธมิตรกัน “เราก็จะอ่อนแอลงไปมาก และเราก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้” เขาย้ำ
ในส่วนการกำจัดกวาดล้างพวกไอเอสนั้น โอบามาชี้ว่า “การดำเนินการรณรงค์ปราบปรามจนกระทั่งสำเร็จลุล่วงไปคือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด และถึงแม้ผมไม่ได้คาดการณ์ว่าในอีก 9 เดือนข้างหน้ามันจะเสร็จสิ้นลงได้ เพราะว่าโชคร้ายที่แม้กระทั่งถ้าหากยังเหลือพวกหัวสุดโต่งเพียงกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง พวกเขาก็ยังสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่นครจำนวนมากของเรา”
“แต่ผมคิดว่าเราสามารถค่อยๆ ลดค่อยๆ หดสภาพแวดล้อมที่พวกเขาปฏิบัติการลงไปได้ และตียึดเอาที่มั่นสำคัญๆ อย่างเช่น โมซุล และร็อกเกาะฮ์ ซึ่งกำลังกลายเป็นหัวใจของขบวนการของพวกเขา”
ทั้งโอบามาและสหประชาชาติต่างหวั่นเกรงว่าข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางระหว่างกองกำลังอาวุธของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย กับพวกกบฏที่ไม่ใช่กลุ่มนักรบญิฮัด ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ กำลังตกอยู่ในอันตรายที่จะล้มครืนลงท่ามกลางรายงานข่าวเกิดการปะทะขึ้นมาใหม่ตามจุดต่างๆ จำนวนมาก
ขณะที่การเจรจาสันติภาพในนครเจนีวาระหว่างตัวแทนของรัฐบาลซีเรียกับตัวแทนฝ่ายค้านยังจะดำเนินต่อไปในสัปดาห์หน้า ทว่าก็มีการกล่าวหาตอบโต้กันและกันอย่างขมขื่น จนห่วงกันว่าการเจรจาอาจจะใกล้พังลงมา