xs
xsm
sm
md
lg

‘โอบามา’ ย้ำให้ยุโรปฟังชัดๆ อย่าหวัง ‘สหรัฐฯ’ ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปทำศึกในซีเรีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ โบกมือจากประตูของ “แอร์ฟอร์ซวัน” เครื่องบินประจำตำแหน่งของเขา ก่อนออกเดินทางจากสหราชอาณาจักรในวันนี้ (24 เม.ย.) โอบามาได้ให้สัมภาษณ์แก่บีบีซี พูดถึงการเยือนอังกฤษเป็นเวลา 3 วันของเขาเที่ยวนี้ โดยเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งคือซีเรีย ที่เขาเตือนยุโรปกลายๆ ว่า อย่าวาดหวังให้สหรัฐฯส่งทหารภาคพื้นดินเข้าปราบปรามไอเอส โดยที่ยุโรปไม่ต้องลงมือทำอะไร </i>
บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปประจำการในซีเรีย พร้อมกับกล่าวยืนยันว่าความพยายามทางทหารเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศซึ่งตกอยู่ในสงครามกลางเมืองอันยืดเยื้อแห่งนี้ได้

“มันจะเป็นความผิดพลาดสำหรับสหรัฐฯ, หรือสำหรับสหราชอาณาจักร ... ถ้าหากส่งกองทหารภาคพื้นดินเข้าไปทำการโค่นล้มระบอบปกครองของ [บาชาร์ อัล-] อัสซาด” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์วิทยุโทรทัศน์บีบีซี

เขาบอกด้วยว่า ไม่คิดว่ากลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) จะประสบความพ่ายแพ้ภายในช่วงเวลา 9 เดือนสุดท้ายแห่งวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาที่ยังเหลืออยู่ แต่ก็ระบุว่า “เราสามารถค่อยๆ ลดค่อยๆ หดสภาพแวดล้อมที่พวกเขาปฏิบัติการลงไปได้”

โอบามา ซึ่งเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 วัน กล่าวในการให้สัมภาษณ์บีบีซีวันเสาร์ (23 เม.ย.) แต่นำมาเผยแพร่ออกอากาศวันอาทิตย์ (24) ว่า ซีเรียเป็น “สถานการณ์ชวนให้ใจแหลกสลายที่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนมากมายมหาศาล”

“การที่เราจะสามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวในซีเรียได้ หนทางแก้ไขด้วยกำลังทหารเพียงอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนทีเดียวว่าเราจะต้องส่งกำลังทหารภาคพื้นดินเข้าไปประจำการด้วยนั้น จะไม่สามารถทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นมาได้หรอก”
<i>ภาพที่ถ่ายจากคลิปวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของพวก “รัฐอิสลาม” (ไอเอส)  ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์บีบีซียอมรับว่า ไม่คาดหวังว่าจะสามารถปราบไอเอสได้ก่อนสิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่งของเขาใน 9 เดือนข้างหน้า </i>
โอบามาบอกว่า กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ จะยังคง (ใช้กำลังทางอากาศ) “โจมตีเป้าหมายต่างๆ ของไอซิล (ISIL ชื่อย่ออีกชื่อหนึ่งของกลุ่มไอเอส) ในสถานที่อย่างเช่นเมืองร็อกเกาะฮ์ (Raqqa) และจะต้องพยายามโดดเดี่ยวบริเวณต่างๆ ของประเทศ (ซีเรียซึ่งพวกไอเอสยึดครองอยู่) และปิดล้อมบริเวณต่างๆ ของประเทศ ซึ่งกำลังจัดส่งพวกนักรบต่างชาติเข้าไปยังยุโรป”

แต่เขากล่าวด้วยว่า ประชาคมระหว่างประเทศยังจำเป็นที่จะต้องออกแรงกดดันบีบคั้นทุกๆ ฝ่าย รวมทั้งรัสเซีย, อิหร่าน, กลุ่มฝ่ายค้านหัวไม่รุนแรงในซีเรีย เพื่อให้พวกเขา “นั่งลงเจรจากันบนโต๊ะ และพยายามเป็นตัวกลางทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน (ในซีเรีย)” โดยที่ตัวเขายอมรับว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”

โอบามายังวิพากษ์วิจารณ์พวกประเทศซึ่งรัฐสภาของพวกเขาเองไม่ได้เคยยอมอนุมัติให้เข้าร่วมการปฏิบัติการในซีเรีย ทว่ายังคง “ต้องการให้สหรัฐฯ ทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับซีเรีย” ทั้งนี้เขาย้ำว่า “คุณไม่สามารถที่จะได้ทั้งขึ้นทั้งล่องหรอก”

โอบามากล่าวว่า ซีเรียเป็นประเด็นปัญหาหนึ่งในหลายๆ ปัญหาเวลานี้ ซึ่ง “โดยธรรมชาติแล้วเป็นปัญหาข้ามชาติ (นั่นคือเป็นปัญหาที่ใหญ่โตเกินกว่าเป็นแค่ปัญหาของซีเรียประเทศเดียว) ... และจำเป็นต้องอาศัยการตอบสนองแบบข้ามชาติ”

เขาพูดต่อไปว่า “ผมคิดว่ามีความโน้มเอียงของผู้คนจำนวนมากทีเดียวซึ่งเชื่อว่าเราสามารถที่จะยกสะพานชักขึ้นมา เชื่อว่าเราสามารถที่จะขุดคูล้อมรอบๆ ตัวเราเองขึ้นมา (เพื่อเอาตัวรอดไปโดยลำพัง) และไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในทั่วโลกได้”

ทว่าเมื่อไม่มีความร่วมมือกันและไม่มีการจับมือเป็นพันธมิตรกัน “เราก็จะอ่อนแอลงไปมาก และเราก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้” เขาย้ำ
<i>ภาพบรรยากาศการประชุมระหว่าง สตัฟฟาน เดอ มุสตูรา ผู้แทนสหประชาชาติ กับเหล่าสมาชิกของฝ่ายค้านภายในประเทศซีเรีย อันเป็นวาระหนึ่งของการเจรจาสันติภาพซีเรีย ณ สำนักงานยูเอ็นในนครเจนีวา เมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) มุสตูราคาดว่าการเจรจายังจะดำเนินต่อไปในสัปดาห์หน้า แม้บรรยากาศย่ำแย่น่าหวั่นเกรงว่าอาจจะล้มครืนลง </i>
ในส่วนการกำจัดกวาดล้างพวกไอเอสนั้น โอบามาชี้ว่า “การดำเนินการรณรงค์ปราบปรามจนกระทั่งสำเร็จลุล่วงไปคือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด และถึงแม้ผมไม่ได้คาดการณ์ว่าในอีก 9 เดือนข้างหน้ามันจะเสร็จสิ้นลงได้ เพราะว่าโชคร้ายที่แม้กระทั่งถ้าหากยังเหลือพวกหัวสุดโต่งเพียงกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง พวกเขาก็ยังสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่นครจำนวนมากของเรา”

“แต่ผมคิดว่าเราสามารถค่อยๆ ลดค่อยๆ หดสภาพแวดล้อมที่พวกเขาปฏิบัติการลงไปได้ และตียึดเอาที่มั่นสำคัญๆ อย่างเช่น โมซุล และร็อกเกาะฮ์ ซึ่งกำลังกลายเป็นหัวใจของขบวนการของพวกเขา”

ทั้งโอบามาและสหประชาชาติต่างหวั่นเกรงว่าข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางระหว่างกองกำลังอาวุธของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย กับพวกกบฏที่ไม่ใช่กลุ่มนักรบญิฮัด ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ กำลังตกอยู่ในอันตรายที่จะล้มครืนลงท่ามกลางรายงานข่าวเกิดการปะทะขึ้นมาใหม่ตามจุดต่างๆ จำนวนมาก

ขณะที่การเจรจาสันติภาพในนครเจนีวาระหว่างตัวแทนของรัฐบาลซีเรียกับตัวแทนฝ่ายค้านยังจะดำเนินต่อไปในสัปดาห์หน้า ทว่าก็มีการกล่าวหาตอบโต้กันและกันอย่างขมขื่น จนห่วงกันว่าการเจรจาอาจจะใกล้พังลงมา

กำลังโหลดความคิดเห็น