เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - น้ำมันโลกขยับลงราว 1 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (14 เม.ย.) จากแรงขายทำกำไรหลังพุ่งขึ้นอย่างมากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่ผสมผสาน ขณะที่ทองคำก็ปรับลดเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์ แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือนในวันพุธ (20 เม.ย.) หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยว่ากำลังผลิตในอเมริกาลดลงต่ำกว่า 9 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และลดลงมาจากระดับสูงสุดช่วงกลางปี 2015 ราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน
กำลังผลิตระดับสูงในสหรัฐฯ เป็นปัจจัยสนับสนุนภาวะอุปทานล้นตลาด เช่นเดียวกับกำลังผลิตที่สูงลิ่วในชาติผู้ส่งออกรายอื่นๆ อย่างเช่นซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย “ผู้คนถอนเงินออกจากโต๊ะเพื่อรอดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น” คาร์ล แลร์รี นักวิเคราะห์จากฟรอสต์แอนด์ซุลลิแวนกล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ท่ามกลางรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผสมผสานของบริษัทต่างๆ
ดาวโจนส์ลดลง 113.75 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,982.52 จุด เอสแอนด์พีลดลง 10.92 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,091.48 จุด แนสแดคลดลง 2.24 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,945.89 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จนอยู่ห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แค่ราวๆ 1 เปอร์เซ็นต์ จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน ทว่าความเคลื่อนไหวในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) เป็นผลจากความผิดหวังกับรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่ไม่เข้าเป้า ทั้งที่ก็มีความคาดหมายในระดับต่ำอยู่ก่อนแล้ว
อัลฟาเบทรายงานรายได้ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาดหมายเล็กน้อย ขณะที่หุ้นของพวกเขาลดลง 5.5 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับหุ้นของไมโครซอฟท์ที่ปิดลบ 3.5 เปอร์เซ็นต์ หลังเผยแพร่ข้อมูลผลประกอบการที่ไม่สดใสนัก
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน นักลงทุนประเมินทิศทางในอนาคต หลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจยึดนโยบายดอกเบี้ยตามเดิม และจับตาที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,250.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
