รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ยืนยันในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) ว่าเพื่อนสนิทของเขาที่ปรากฏชื่ออยู่ในแฟ้มลับสะเทือนโลก “ปานาปา เปเปอร์ส” ไม่ได้ทำอะไรผิด โดยเป็นเพียงผู้ถือหุ้นข้างน้อยของบริษัทแห่งหนึ่ง และสหายรายนี้ใช้เงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจซื้อเครื่องดนตรีราคาแพง และกำลังบริจาคแก่สถาบันสาธารณะต่างๆ
สื่อมวลชนรายงานโดยอ้างเอกสารที่รั่วไหลจากมอสแซก ฟอนเซกา บริษัทกฎหมายใหญ่ที่มีฐานอยู่ในปานามา และมีสาขาตามประเทศต่างๆ จำนวนมาก ระบุว่า นายเซอร์เก โรลดูกิน สร้างอาณาจักรทางธุรกิจอย่างเงียบๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมในต่างแดนที่อาจเชื่อมโยงกับผู้นำรัสเซีย
ระหว่างกล่าวปราศรัยกับผู้สนับสนุนในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นายปูตินบอกว่าเอกสารที่รั่วไหลเป็นส่วนหนึ่งของการจัดฉากในความพยายามก่อความไร้เสถียรภาพแก่รัสเซีย ด้วยการแต่งแต้มข้อกล่าวหาต่างๆ เกี่ยวกับการคอร์รัปชัน
“ฝ่ายตรงข้ามของเรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อความสามัคคีและความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของประชาชนชาวรัสเซีย พวกเขาพยายามเขย่าเราจากภายใน ทำให้เราง่อนแง่น” ปูตินให้ความเห็นต่อสาธารณะในประเด็นเกี่ยวกับเอกสารที่รั่วไหลนี้เป็นครั้งแรก
“มีการกล่าวหาว่าเพื่อนคนหนึ่งของประธานาธิบดีรัสเซียเขาทำบางอย่าง บางอย่างที่อาจเข้าข่ายคอร์รัปชัน แต่มันไม่ใช่เลย” ปูตินระบุ
ปูตินบอกว่า นายโรลดูกินเป็นนักดนตรีที่มหัศจรรย์และเป็นผู้ถือหุ้นฝ่ายข้างน้อยในบริษัทแห่งหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งทำให้เขาพอมีรายได้บ้าง แต่ไม่ถึงหลายพันล้านดอลลาร์ตามที่ถูกกล่าวหา
ประธานาธิบดีรัสเซียรายนี้บอกต่อว่า นายโรลดูกินใช้เงินเกือบทั้งหมดที่ได้รับจากการร่วมลงทุนดังกล่าวไปกับการซื้อเครื่องดนตรีราคาแพงจากต่างประเทศ ซึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างขั้นตอนส่งมอบแก่สถาบันของรัฐ “ผมภูมิใจที่มีเพื่อนเช่นนี้” ปูตินกล่าว
แฟ้มข้อมูลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารกว่า 11 ล้านหน้า ซึ่งหลุดจากฐานข้อมูลของ “มอสแซก ฟอนเซกา” บริษัทกฎหมายระหว่างประเทศอันดับ 4 ของโลกที่มีฐานในปานามา ซึ่งเปิดโปงสารพัดวิธีการที่มหาเศรษฐีและผู้มีอิทธิพลแสวงหาประโยชน์จากกลไกภาษีลับต่างแดน
หนังสือพิมพ์ซุดดอยช์ ไซตุง ของเยอรมนีได้รับเอกสารดังกล่าวโดยไม่มีการเปิดเผยที่มา ก่อนจะส่งข้อมูลให้แก่สมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ (ICIJ) และองค์กรสื่ออีก 107 แห่ง ใน 78 ประเทศ ร่วมวิเคราะห์ด้วย ซึ่งนายเจอราร์ด ไรล์ ผู้อำนวยการของ ICIJ กล่าวว่า เอกสารลับนี้ครอบคลุมข้อมูลธุรกิจของ มอสแซก ฟอนเซกา แบบวันต่อวันตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
การดำเนินการทางการเงินออฟชอร์ ในตัวมันเองประเทศต่างๆ ไม่ได้ถือว่าผิดกฎหมาย แต่อาจถูกใช้เป็นช่องทางซ่อนทรัพย์สินจากหน่วยงานสรรพากร ฟอกเงินที่ได้จากอาชญากรรม หรือปิดบังทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบหรือไม่ชอบมาพากลทางการเมือง
เอกสารที่รั่วไหลดังกล่าวซึ่งบรรจุรายละเอียดลูกค้าจากทั่วโลก เป็นสาเหตุให้นายกรัฐมนตรี ซิกมุนเดอร์ เดวิด กุนน์ลอจสัน ของไอซ์แลนด์ต้องลาออกจากตำแหน่ง นำพานายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษตอยู่ภายใต้แรงกดดันเกี่ยวกับกิจการทางการเงินของครอบครัว ส่วนในยูเครนได้กระตุ้นเสียงเรียกร้องให้สืบสวนประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก
แต่ในรัสเซีย ซึ่งสื่อมวลชนแห่งรัฐโน้มเอียงตามกรอบของเครมลิน ข้อกล่าวหาต่างๆ ถูกปฏิเสธหรือไม่ก็โดนวาดภาพว่าเป็นความพยายามกัดเซาะเหล่าผู้ปกครองชั้นสูงก่อนศึกเลือกตั้งทั่วไปจะมาถึงในปลายปีนี้
