เอเจนซีส์ - ทางการปากีสถานเริ่มปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีชาวคริสต์ที่เมืองลาฮอร์ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 69 ราย โดยกลุ่มติดอาวุธเครือข่ายตอลิบานที่เคยประกาศตัวร่วมมือกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบแล้ว ขณะที่ “เฟซบุ๊ก” ประกาศขออภัยกรณีระบบ “เซฟตี เช็ค” ถูกส่งไปยังผู้ใช้ในหลายประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้
ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุระเบิดใกล้สวนสาธารณะในเมืองลาฮอร์เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ (27) ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กที่ออกมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเทศกาลอีสเตอร์
“เราจะต้องเอาตัวฆาตกรที่สังหารพี่น้องและเด็กๆ ผู้บริสุทธิ์ของเรามาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม และจะไม่ปล่อยให้เดนมนุษย์พวกนี้มาทำลายชีวิตและเสรีภาพของเรา” อาซิม บัจวา โฆษกกองทัพปากีสถาน โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์
ตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้ยังค่อนข้างสับสน โดยสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานยอดผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 69 ราย ขณะที่รอยเตอร์อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ปากีสถานซึ่งระบุว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 65 ราย บาดเจ็บอีกราว 300 คน แต่ก็คาดว่ายอดตายจะพุ่งสูงขึ้นอีก
ปากีสถานต้องเผชิญกับเหตุความไม่สงบมานานถึง 15 ปี นับตั้งแต่ตัดสินใจร่วมมือกับสหรัฐฯ กวาดล้างกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ หลังเกิดเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ซึ่งเป็นฝีมือกลุ่มอัลกออิดะห์
กลุ่มติดอาวุธ ญามาอาตุลอะห์รอร์ (Jamaat-ul-Ahrar) ซึ่งเป็นสาขาย่อยของตอลิบาน ได้ออกมาอ้างความผิดชอบต่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่เมืองลาฮอร์ และยังส่งข้อความท้าทายไปถึงรัฐบาลปากีสถานโดยตรง
“เป้าหมายของเราคือพวกชาวคริสต์” เอียะห์ซานุลเลาะห์ เอียะห์ซาน โฆษกของกลุ่ม ให้สัมภาษณ์
“เราต้องการบอกให้นายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ ทราบว่า พวกเราเข้ามาถึงลาฮอร์แล้ว”
ญามาอาตุลอะห์รอร์ อ้างความรับผิดชอบในเหตุโจมตีรุนแรงหลายครั้ง นับตั้งแต่แยกตัวออกจากกลุ่มตอลิบานปากีสถานเมื่อปี 2014 พวกเขายังเคยประกาศสวามิภักด์ต่อไอเอสในตะวันออกกลาง แต่ต่อมาอ้างว่าได้กลับไปเข้าร่วมกับตอลิบานใหม่แล้ว
แม้ทรัพย์สินของกองทัพ ตำรวจ รัฐบาล และประเทศตะวันตก จะเป็นเป้าหมายหลักในการจู่โจมของกลุ่มตอลิบานและพวก แต่ชาวคริสต์และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในปากีสถานก็ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน
กองกำลังความมั่นคงปากีสถานได้สังหารและจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายร้อยคนที่คาดว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธ หลังมือปืนตอลิบานบุกกราดยิงเด็กนักเรียนดับ 134 ศพ ภายในโรงเรียนของกองทัพที่เมืองเปชวาร์ เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2014
ลาฮอร์เป็นเมืองเอกของแคว้นปัญจาบ ซึ่งเป็นแคว้นที่มั่งคั่งที่สุดของปากีสถาน และยังถูกมองว่าเป็นฐานอำนาจทางการเมืองของ ชารีฟ และพรรครัฐบาลอีกด้วย
ล่าสุด สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง “เฟซบุ๊ก” ได้ออกมาแถลงขออภัยในความผิดพลาดของระบบ “เซฟตี เช็ค” ที่ได้ส่งบริการไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กในหลายประเทศทั่วโลก หลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ปากีสถานเมื่อวานนี้ (27)
เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กตั้งแต่โฮโนลูลูเรื่อยไปยันบรัสเซลส์ ไคโร และฮ่องกง ต่างมึนงงไปตามๆ กันเมื่อมีระบบ “เซฟตี เช็ค” ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ โดยบริการนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเฟซบุ๊กหลังเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้ซึ่งอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุก่อการร้ายหรือภัยธรรมชาติได้แสดงตัวตนว่าพวกเขายังปลอดภัยดีหรือไม่
“เราได้เปิดบริการ เซฟตี เช็ค ขึ้นในเขตเมืองลาฮอร์ของปากีสถาน หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่นั่น แต่น่าเสียดายที่ผู้ใช้อีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับผลกระทบก็ได้รับคำถามไปด้วย” เฟซบุ๊ก ระบุในคำแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวเอเอฟพี
“นี่เป็นความผิดพลาดที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของเฟซบุ๊ก เรากำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหานี้ และขออภัยไปยังผู้ใช้ทุกท่านที่ได้รับการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด”