เอเอฟพี - ทหารซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) บุกเข้าไปในพัลไมรา เมืองมรกดโลกได้แล้ว ขณะที่กองกำลังอิรักเริ่มปฏิบัติการโจมตียึดคืนเมืองโมซุล ก่อแรงกดดันใหญ่หลวงต่อ 2 ป้อมปราการสำคัญของพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส)
ขณะเดียวกัน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังเปิดหารือในมอสโกเพื่อผลักดันความพยายามสันติภาพในซีเรีย ดินแดนฐานบัญชาการของพวกไอเอสที่อ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีหลายระลอกในตะวันตก ในนั้นรวมถึงเหตุระเบิดถล่มบรัสเซลส์ในสัปดาห์นี้
กองทัพซีเรียภายใต้การสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินรบรัสเซียและนักรบพันธมิตรทางภาคพื้นที่ รุกคืบเข้าสู่พัลไมราในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) หลังจากเริ่มลงมือโจมตีเมืองแห่งนี้มาตั้งแต่ต้นเดือน จากการเปิดเผยของกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย
ไอเอสบุกยึดพัลไมรา ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลทราย” เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน และนับตั้งแต่นั้นก็ระเบิดทำลายโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และอนุสรณ์สถานต่างๆที่มีอายุเก่าแก่หลายพันปี
นายรามี อับเดล ราห์มัน ผู้อำนวยการองค์การสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย บอกกับเอเอฟพี ระบุว่า “กองกำลังรัฐบาลเข้าสู่ย่านฮายี อัล-การ์ฟ ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของพัลไมรา การรุกคืบของพวกเขาทำได้ช้ามากเพราะพวกไอเอสวางกับระเบิดเอาไว้” พร้อมระบุว่าทหารยังได้รุกคืบมาจากทางเหนือของเมืองด้วย
ส่วนแหล่งข่าวกองทัพซีเรียยืนยันการรุกคืบเข้าไปในเมือง พร้อมเผยว่าทหารยังได้เคลื่อนพลเข้าสู่เมืองจากทางตะวันตกเฉียงเหนือ หลังจากเข้าควบคุมพื้นที่หุบเขาแห่งสุสานของพัลไมรา “ยังคงมีการปะทะและมันเป็นไปอย่างดุเดือด” เขาบอกกับเอเอฟพี
มามูน อับดุลคาริม ผู้อำนวยการสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ของซีเรีย ยกย่องการบุกยึดคืนพัลไมราครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกมีความสุขมากกับการปลดปล่อยที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ และฝันร้ายใกล้ยุติแล้ว ก่อนที่มันจะสายไป ก่อนที่เมืองโบราณแห่งนี้จะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ผมคิดว่าช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาคือช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเรา”
ก่อนหน้านี้ไอเอสเร่งเร้าให้ประชาชนหลบหนีออกจากเมือง ขณะที่หลังจากพวกญิฮัดบุกยึดเมืองแห่งนี้ มีชาวบ้านดั้งเดิมราว 15,000 ถึง 17,000 คน ยังคงพักอาศัยในพัลไมรา
การยึดคืนเมืองพัลไมราจะเป็นชัยชนะทางยุทธศาสตร์และทางสัญลักษณ์ครั้งสำคัญของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด นับตั้งแต่ที่พวกเขาสามารถรักษาการควบคุมดินแดนในทะเลทรายอันกว้างขวางเอาไว้ได้ ไล่ตั้งแต่ตอนกลางของซีเรียไปจนถึงตามแนวชายแดนอิรัก
ข้ามพรมแดนไปอีกฝาก กองทัพอิรักแถลงเริ่มปฏิบัติการจู่โจมเพื่อยึดคืนโมซุล เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของอิรัก ศูนย์กลางหลักของไอเอสในอิรัก “กองทัพและกองกำลังกึ่งทหาร Popular Mobilisation (ฮาเช็ด อัลชาอาบี) เริ่มขั้นแรกของปฏิบัติการแห่งชัยชนะในจังหวัดนิเนเวห์ ซึ่งมีโมซุลเป็นเมืองเอก” กองบัญชาการปฏิบัติการร่วมของอิรักระบุในถ้อยแถลง
นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อาบาดี เผยแพร่ถ้อยแถลงแสดงความยินดีกับนักรบที่กำลังปฏิบัติการยึดคืนนิเนเวห์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการยึดคืนหมู่บ้านบางแห่ง หลังจากก่อหน้านี้ทางกองบัญชาการปฏิบัติการร่วมของอิรักเผยว่าสามารถเข้าควบคุมหมู่บ้าน 4 แห่ง ที่ตั้งระหว่างเมืองกัยยาราห์ ซึ่งถูกยึดครองโดยไอเอส และเมืองมัคมูร์ จุดที่กองกำลังอิรักภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯได้เคลื่อนพลไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
กองทัพไม่ได้ระบุว่าปฏิบัติการขั้นนี้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ขณะที่กองกำลังอิรักเองยังอยู่ห่างไกลจากการเข้ายึดเมืองด้วยตนเอง ขณะที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการสู้รบเพื่อยึดคืนโมซุลจะต้องเผชิญกับความยุ่งยาก จากทั้งจำนวนนักรบญิฮัดและพลเมืองที่ยังอยู่ภายในเมือง รวมถึงพวกไอเอสมีเวลาสำหรับเตรียมการป้องกันตนเอง