รอยเตอร์ - กองทัพซีเรียยึดคืนป้อมปราการเก่าแก่ของพัลไมรา ที่สามารถมองเห็นซากโบราณสถานของเมืองในวันศุกร์(25มี.ค.) ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐและกลุ่มสังเกตการณ์ ในปฏิบัติการจู่โจมที่อาจเปิดพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศแก่กองกำลังรัฐบาล
การทวงคืนเมืองพัลไมรา ซึ่งถูกนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส) บุกยึดในเดือนพฤษภาคม 2015 จะกลายเป็นชัยชนะโดดๆครั้งใหญ่ที่สุดของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด นับตั้งแต่รัสเซียเข้าแทรกแซงในเดือนกันยายนปีก่อนและเปลี่ยนกระแสความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 ปี ให้ไปในทิศทางที่เขาต้องการ
พัลไมรา ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลทราย เป็นที่ตั้งของซากโบราณสถาน วิหารและสุสานยุคจักรวรรดิโรมันที่ประเมินค่ามิได้ ทว่าจำนวนมากได้ถูกพวกนักรบไอเอสระเบิดทำลายนับตั้งแต่บุกยึด กระตุ้นให้สหประชาชาติออกมาประณามว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม
เมืองแห่งนี้ควบคุมเส้นทางต่างๆทางตะวันออกที่มุ่งหน้าสู่แก่นกลางดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของไอเอส ซึ่งประกาศสถาปนาการปกครองแบบกาหลิบเหนือพื้นที่ควบคุมในซีเรียและอิรัก
ระดับการสู้รบอันหนักหน่วงในวันศุกร์(25มี.ค.) สะท้อนให้เห็นว่าเมืองแห่งนี้มีค่าทางยุทธศาสตร์แค่ไหน ด้วยฝ่ายรัฐบาลกระหน่ำโจมตีด้วยกระสุนปืนครกภายใต้การสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินรบ ขณะที่พวกไอเอสตอบโต้ด้วยคาร์บอมบ์อย่างน้อยๆ 2 คัน
เครื่องบินรบของรัสเซียยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนกองทัพซีเรียและพันธมิตร ในความพยายามจู่โจมยึดคืนเมืองในทะเลทรายแห่งนี้ แม้เมื่อเร็วๆนี้มอสโกเพิ่งแถลงว่ากำลังถอนทหารออกจากซีเรีย
ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์ อัล-มายาดีน ของเบรุต ที่รายงานจากชานเมืองพัลไมรา พบเห็นเครื่องบินรบบินในระดับต่ำ ลงมือโจมตีทางอากาศ 3 เที่ยวถล่มนักรบไอเอสที่กำลังล่าถอยจากป้อมปราการเก่าแก่กลับเข้าสู่เมือง
ขณะที่สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐอ้างแหล่งข่าวทางทหารเผยว่ากองกำลังรัฐบาลสามารถยึดป้อมปราการเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่เหนือซากโบราณสถานได้แล้ว ส่วนกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ก็ยืนยันรายงานข่าวนี้เช่นกัน และระบุว่าตั้งแต่ช่วงรุ่งสางจนถึงตอนบ่ายวันศุกร์(25มี.ค.) ได้มีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถึง 56 เทียว พร้อมเผยไอเอสใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายลงมือคาร์บอมบ์ 2 คัน เพื่อขับไล่กองกำลังรัฐบาลที่รุกคืบเข้ามาย่านโรงแรมที่อยู่ติดกับซากโบราณสถาน
ทหารให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเรียว่าทางกองกำลังใกล้เข้าควบคุมพื้นที่สูงที่มองเห็นได้ทั่วเมืองพัลไมราได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ข้อตกลงหยุดยิงที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและรัสเซีย ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของซีเรีย แต่ไม่รวมถึงดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของไอเอส
มอสโกเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลนายอัสซาด ส่วนวอชิงตันและประเทศตะวันตกอื่นๆให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏที่พยายามโค่นล้มเขาระหว่างสงครามกลางเมือง 5 ปีที่เข่นฆ่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 250,0000 ศพและนำมาซึ่งวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก
อย่างไรก็ตามทั้งสองชาติมหาอำนาจให้คำมั่นในการต่อสู้กับพวกรัฐอิสลามและได้สนับสนุนความพยายามทางการทูตรอบใหม่ในการยุติการสู้รบกับอีกฝ่าย