รอยเตอร์ - รัฐมนตรีมหาดไทยและรัฐมนตรียุติธรรมของเบลเยียม เสนอตัวลาออกจากตำแหน่งในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) รับผิดชอบความล้มเหลวในการติดตามนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ถูกตุรกีเนรเทศเมื่อปีที่แล้ว ก่อนชายรายนี้จะมาลงมือจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสนามบินบรัสเซลส์ในวันอังคาร (22 มี.ค.)
อย่างไรก็ตาม ยาน ยัมบอน รัฐมนตรีมหาดไทยของเบลเยียม เผยว่านายกรัฐมนตรีชาร์ลส์ มิเชล ขอให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป “ยามที่คุณอยู่ในสงคราม คุณไม่สามารถออกจากสนามรบได้” เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์วีทีเอ็ม ส่วนคอน กีน รัฐมนตรียุติธรรมเบลเยียม ก็เสนอตัวขอลาออกเช่นกัน แต่ก็จะทำหน้าที่ต่อไป
ทางการเบลเยียมกำลังเผชิญกับความอับอาย หลังตุรกีเผยเมื่อวันพุธ (23 มี.ค.) ว่าเมื่อปีที่แล้วอังการาได้เนรเทศนายอิบราฮิม เอล บากราวี หนึ่งในมือระเบิดฆ่าตัวตายที่ลงมือโจมตีในวันอังคาร (22 มี.ค.) พร้อมกับเตือนบรัสเซลส์ด้วยว่าชายคนนี้เป็นนักรบ
ในขณะที่นักรบคนอื่นๆ ไม่เคยถูกควบคุมตัวเนื่องจากปราศจากหลักฐาน แต่ในส่วนของนายบากราวี มีประวัติอาชญากรรมปล้นโดยใช้อาวุธ แต่ไม่มีเบาะแสโยงใยกับการก่อการร้าย จึงมีการทำทัณฑ์บนไว้เท่านั้นและเพิ่งเลยครึ่งทางของบทลงโทษ 9 ปี
“คุณสามารถตั้งคำถามได้ว่าทำไมบางคนถึงถูกปล่อยไปง่ายดายนัก นั่นทำให้เราพลาดโอกาสควบคุมตัวเขาเมื่อตอนที่เขาอยู่ในตุรกี ผมเข้าใจข้อสงสัยเหล่านั้น” ยัมบอนระบุ “ในกรณีแวดล้อมเช่นนี้มันเหมาะสมแล้วที่ต้องรับผิดชอบทางการเมือง”
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน กล่าวหาเบลเยียมล้มเหลวในการคว้าโอกาสควบคุมตัวนายบากราวี โดยเออร์โดกันเปิดเผยว่า ตุรกีเคยจับกุมบากราวี ได้เมื่อปีที่แล้ว และเนรเทศไปเนเธอร์แลนด์ พร้อมเตือนว่าบุคคลนี้เป็นผู้ก่อการร้ายต่างชาติ แต่เบลเยียมกลับไม่สามารถหาความเชื่อมโยงได้ และปล่อยตัวไป
การโจมตีบรัสเซลส์ทำให้เจ้าหน้าที่ยุโรปถูกกดดันอย่างหนัก และฟ้องความด้อยประสิทธิภาพในการทำลายเครือข่ายหัวรุนแรงในเบลเยียม ประเทศที่มีพลเมืองเดินทางไปร่วมรบกับไอเอสในซีเรียมากที่สุดในยุโรป
ในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) อัยการเบลเยียมยืนยันว่าเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน เคยออกหมายจับสากลนายคาลิด บากราวี วัย 27 ปีน้องชายของนายอิบราฮิม วัย 29 ปี สองพี่น้องที่ถูกกล่าวโทษว่าเป็นคนลงมือระเบิดนองเลือดในกรุงบรัสเซลส์สัปดาห์นี้ เพราะเขาเป็นที่ต้องการตัวในความเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีกรงปารีสเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ นายคาลิด บากราวี ระเบิดตัวเองท่ามกลางฝูงชนในชั่วโมงเร่งด่วนที่สถานีรถไฟในบรัสเซลส์ ส่วนนายอิบราฮิม เป็น 1 ใน 2 คนที่จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินบรัสเซลส์ ในเหตุโจมตีพร้อเพรียงกันเมื่อวันอังคาร (22 มี.ค.)
ในถ้อยแถลง อัยการเบลเยียมระบุว่าก่อหน้านี้นายคาลิด เคยต้องสงสัยว่าใช้บัตรประชาชมปลอมในการเช่าห้องพักในเมืองชาร์เลอรัว ของเบลเยียม ซึ่งถูกใช้เป็นแหล่งกบดานของสมาชิกเครือข่ายนักรบที่ลงมือโจมตีกรุงปารีสในวันที่ 13 พฤศจิกายน คร่าชีวิต 130 ศพ
ตำรวจเข้าตรวจค้นที่พักแห่งนี้ในวันที่ 9 ธันวาคม และออกหมายจับสากลนายบากราวีในวันที่ 11 ธันวาคม โดยรายละเอียดส่วนตัวและรูปถ่ายของเขาปรากฏอยู่ในรายชื่อบุคคลเป็นที่ต้องการตัวบนเว็บไซต์ของอินเตอร์โพล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับความพยายามของตำรวจเบลเยียมในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) ที่กำลังไล่ล่าชายคนที่ 3 ที่ถูกกล้องวงจรปิดถ่ายภาพไว้ได้ขณะอยู่กับมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คนที่สนามบินบรัสเซลส์ ขณะที่พบหลักฐานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่าพวกเขาเป็นเครือข่ายนักรบญิฮัดเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีนองเลือดในกรุงปารีส
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงบอกกับสื่อมวลชนเบลเยียมว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายอีกคนที่สนามบินคือนาย นาจิม ลาชราวี นักรบอิสลามิสต์รุ่นอาวุโสชาวเบลเยียม ซึ่งต้องสงสัยเป็นคนทำระเบิดในการโจมตีปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
ส่วนผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 ซึ่งถูกกล้องวงจรปิดของสนามบินจับภาพไว้ได้ ขณะกำลังเข็นรถเข็นไปยังอาคารผู้โดยสารขาออกพร้อมกับนายลาชราวีกับอิบราฮิม เอล บากราวี ตอนนี้เป็นเป้าหมายการไล่ล่าของตำรวจ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามของเขา
นอกจากนั้น เมื่อวันพฤหัสบดี (24) อาร์ทีบีเอฟ สถานีแพร่ภาพกระจายเสียงของทางการเบลเยียม รวมทั้งหนังสือพิมพ์เลอ มงด์ และสถานีทีวี บีเอฟเอ็มของฝรั่งเศส ยังรายงานว่า อาจมีผู้โจมตีคนที่ 5 ที่หลบหนีไปได้ ซึ่งเป็นชายที่กล้องวงจรปิดในสถานีรถไฟใต้ดินจับภาพได้
โดยในภาพชายผู้นี้ถือกระเป๋าใบใหญ่และเดินอยู่กับคาลิด อย่างไรก็ดี อาร์ทีบีเอฟระบุว่ายังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตในการโจมตีหรือไม่ ขณะที่อัยการเบลเยียมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้