xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำโลกรุมประณามเหตุวินาศกรรมบรัสเซลส์ ประกาศต่อสู้กับ “ก่อการร้าย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประตูบรันเดนบูร์กในเบอร์ลิน สว่างไสวไปด้วยไฟสีดำ เหลืองและแดง อันเป็นสีของธงชาติเบลเยียม  เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบรัสเซลส์ที่ถูกก่อการร้ายโจมตีเมื่อวันอังคาร(22มี.ค.)
เอเอฟพี - เหล่าผู้นำโลกเมื่อวันอังคาร (22 มี.ค.) สามัคคีกันออกมาประณามเหตุวินาศกรรมกรุงบรัสเซลส์ พร้อมประกาศต่อสู้กับก่อการร้าย หลังถูกนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม (ไอเอส) โจมตีแก่นกลางสัญลักษณ์แห่งยุโรป

ในขณะที่ชาวเบลเยียมกำลังเศร้าโศก สถานที่สำคัญหลายแห่งของโลก ในนั้นรวมถึงหอไอเฟลของกรุงปารีสและประตูบรันเดนบูร์กในเบอร์ลิน สว่างไสวไปด้วยไฟสีดำ เหลือง และแดง อันเป็นสีของธงชาติเบลเยียม

สหภาพยุโรปประกาศปกป้องประชาธิปไตยและต่อสู้กับก่อการร้ายในทุกแนวทางที่จำเป็น ตามหลังเหตุโจมตีสนามบินบรัสเซลส์และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่อยู่ห่างจากสถาบันต่างๆ ของอียูไม่ไกลนัก

มีผู้เสียชีวิตราว 20 คนที่สถานีรถไฟ และอีกราว 14 คนที่สนามบินจากเหตุโจมตีในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากตำรวจเบลเยียมสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยหลักของเหตุวินาศกรรมกรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน

ในถ้อยแถลงร่วมที่ไม่พบเห็นบ่อยครั้งนัก เหล่าผู้นำอียูและสถาบันต่างๆ ระบุว่าการโจมตีบรัสเซลส์เป็นการจู่โจม “สังคมประชาธิปไตยเสรีของเรา” พร้อมระบุว่า “การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ยิ่งแต่จะเพิ่มความมุมานะของเราในการปกป้องคุณค่าของยุโรปและเพิ่มความอดทนต่อการโจมตีของพวกที่ไม่ยอมรับความเห็นต่าง เราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและแน่วแน่ในการต่อสู้กับความเกลียดชัง ลัทธิหัวรุนแรงและก่อการร้าย”
หอไอเฟลในฝรั่งเศส สว่างไสวไปด้วยไฟสีดำ เหลืองและแดง อันเป็นสีของธงชาติเบลเยียม  เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบรัสเซลส์ที่ถูกก่อการร้ายโจมตีเมื่อวันอังคาร(22มี.ค.)
สหภาพยุโรปได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2012 ในฐานะที่มีบทบาทส่งเสริมสันติภาพในยุโรปตะวันตกยุคหลังสงคราม แม้ทางกลุ่มต้องตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนจากวิกฤตการเงินกรีซและการไหลบ่ามากสุดเป็นประวัติการณ์ของเหล่าผู้ลี้ภัยที่ส่วนใหญ่หลบหนีภัยสงครามในซีเรีย

“เมืองหลวงของสหภาพของเราถูกโจมตี เราขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และให้สัญญาว่าจะเอาชนะก่อการร้ายผ่านประชาธิปไตย” กระทรวงการต่างประเทศกรีซระบุในทวิตเตอร์

นอกเหนือจากการประดับสีธงชาติเบลเยียมบนหอไอเฟลแล้ว ประชาชนชาวฝรั่งเศสอีกหลายร้อยคนยังร่วมจุดเทียนเพื่อแสดงการสนับสนุนเหยื่อบรัสเซลส์ด้วย “เหมือนทั้งยุโรปถูกกระหน่ำ” ประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลอองด์ระบุ พร้อมเรียกร้องให้ทวีปแห่งนี้ใช้มาตรการจำเป็นต่างๆ ในการรับมือกับภัยคุกคามร้ายแรง

ด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระบุว่า “ความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะก่อการร้ายจะไม่มีวันสิ้นสุด” สอดคล้องกับความเห็นของนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ประกาศว่า “เราไม่มีวันที่จะปล่อยให้พวกก่อการร้ายเหล่านี้ได้รับชัยชนะ”

ส่วนประธานาธิบดี บารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเลวร้ายจนสุดจะทน และบอกว่าอเมริกาจะทำทุกทางภายใต้อำนาจไล่ล่าหาตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบ

“เราต้องร่วมมือกันโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ สัญชาติ หรือสิ่งที่ศรัทธา ในการต่อสู้กับหายนะก่อการร้าย เราสามารถและเราจะเอาชนะพวกที่เป็นภัยคุกคามความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชนทั่วทุกมุมโลก” เขากล่าวระหว่างเยือนกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา
ชาวฝรั่งเศสจุดเทียนใกล้กับธงชาติเบลเยียม บริเวณจัตุรัสปลาซเดอลาเรปูบลิ  เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบรัสเซลส์ที่ถูกก่อการร้ายโจมตีเมื่อวันอังคาร(22มี.ค.)
อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ใหม่ของนิวยอร์ก ซึ่งก่อสร้างใกล้จุดวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 จะประดับไฟสีดำ เหลือง และแดง เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเบลเยียม ขณะที่จะมีการลดธงชาติสหรัฐฯ ลงครึ่งเสาตามหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ เป็นเวลาหลายวัน

บัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามการโจมตีว่าเลวทรามต่ำช้า “บันเชื่อมั่นว่าการยึดมั่นในพันธสัญญาด้านสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยและหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของเบลเยียมและยุโรป จะยังเป็นการตอบโต้ที่แท้จริงและยั่งยืนต่อความเกลียดชังและความรุนแรงที่ในวันนี้พวกเขาต้องกลายเป็นเหยื่อ” ถ้อยแถลงของสหประชาชาติระบุ

ตุรกี ซึ่งเผชิญระลอกคลื่นการโจมตีนองเลือดจากฝีมือของพวกไอเอสและกบฏเคิร์ด บอกว่า เหตุการณ์ในบรัสเซลส์เสมือนการเคาะประตูบ้านชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการต่อสู้กับก่อการร้ายจากทุกๆ กลุ่ม

“พวกก่อการร้ายที่เล่นงานบรัสเซลส์ ตามหลังเหตุโจมตีจากฝีมือของพวกพีเคเค (พรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน) และไอเอส ในอังการาและอิสตันบูล คร่าชีวิตผู้คนหลายสิบศพ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าพวกเขาไม่เคยเคารพต่อคุณค่าหรือความเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกับข้อกำหนดทางศีลธรรม” นายเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกันกล่าวในถ้อยแถลง

ด้านประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็ประณามเหตุโจมตีคราวนี้ว่าเป็นอาชญากรรมที่ป่าเถื่อน หลังจากก่อนหน้านี้เครื่องบินโดยสารแดนหมีขาวถูกลอบวางระเบิดบนเครื่องจนระเบิดกลางอากาศเหนือคาบสมุทรไซนายเมื่อเดือนตุลาคม ปีก่อน คร่าชีวิต 224 ศพ

“พวกเขาแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าก่อการร้ายไม่มีพรมแดนและคุกคามผู้คนทั่วโลก การต่อสู้กับพวกปีศาจเหล่านี้ต้องร้องขอความร่วมมืออย่างกระตือรือร้นจากนานาชาติ” เขาระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น