เอเจนซีส์ - ผู้เชี่ยวชาญชี้กล่องดำบันทึกข้อมูลการบินทั้ง 2 กล่องของเที่ยวบินฟลายดูไบที่ประสบอุบัติเหตุโหม่งโลกภายในสนามบินเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอนของรัสเซีย ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแรงระเบิด ซึ่งต้องรอลุ้นว่าจะสามารถดึงข้อมูลออกมาได้มากน้อยแค่ไหน
ที่สนามบินเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน วานนี้ (20 มี.ค.) มีญาติมิตรและประชาชนราว 400 คนเดินทางมาแสดงความอาลัยต่อผู้โดยสาร 55 คน และลูกเรืออีก 7 คนที่เสียชีวิต หลังจากที่โบอิ้ง 737-800 ลำนี้ประสบหายนะไม่คาดฝันเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางของวันเสาร์ (19)
ครอบครัวผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้าต่างนำดอกคาร์เนชันสีแดงและขาวมาวางรวมกันเป็นกองใหญ่ รวมถึงของเล่นเด็ก และภาพถ่ายของผู้วายชนม์
“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าญาติๆ ของพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร” มารีนา บอนดาร์ ชาวเมือง รอสตอฟ-ออน-ดอน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
ทางการรัสเซียได้ส่งพนักงานเข้าเคลียร์พื้นที่ และสามารถเก็บรวบรวมหลักฐาน รวมถึงเศษชิ้นส่วนมนุษย์กว่า 200 ชิ้น ซึ่งกระจัดกระจายอยู่บนพื้นสนามบินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ
ผู้ตรวจสอบการบินหมีขาวระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มดึงข้อมูลบางส่วนออกมาจากกล่องดำทั้งสอง ซึ่งเสียหายอย่างหนักจากการที่เครื่องบินลำนี้ปักหัวลงโหม่งพื้น และระเบิดกลายเป็นลูกไฟขนาดยักษ์
“กล่องดำที่เราได้รับมาอยู่ในสภาพเสียหายอย่างหนักในทางกล” คณะกรรมการการบินระหว่างรัฐแห่งรัสเซีย (Interstate Aviation Committee - IAC) แถลงผ่านเว็บไซต์ พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายกล่องดำทั้งสอง ซึ่งมีชิ้นหนึ่งอยู่ในสภาพบุบบี้
“ทีมผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มต้นตรวจสอบ โดยเปิดกล่องดำ และนำหน่วยความจำออกมาจากกล่องป้องกันเพื่อเชื่อมสายเคเบิล และเตรียมที่จะทำการคัดลอกข้อมูล” ไอเอซีระบุ
สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ไอเอซีคนหนึ่งซึ่งระบุว่า การกู้ข้อมูลจากกล่องดำทั้งสองอาจต้องใช้เวลานานถึง 1 เดือน
ข้อมูลจากกล่องดำจะได้รับการตรวจสอบโดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ เนื่องจากเครื่องบินโบอิ้งซึ่งผลิตในสหรัฐฯ ลำนี้ใช้เครื่องยนต์ที่ทำในฝรั่งเศส
ฟลายดูไบ ซึ่งเป็นสายการบินโลว์คอสต์ของรัฐ และอยู่ในเครือเดียวกันกับสายการบินเอมิเรตส์ แถลงว่า ในจำนวนผู้โดยสาร 55 คนของเที่ยวบิน FZ981 นี้เป็นคนสัญชาติรัสเซีย 44 คน, ยูเครน 8 คน, อินเดีย 2 คน และอุซเบก 1 คน โดยเป็นผู้หญิง 33 คน, ชาย 18 คน และเด็ก 4 คน
สำหรับลูกเรือนั้น นักบินที่ 1 เป็นชาวไซปรัส ส่วนนักบินที่ 2 เป็นชาวสเปน แต่ละคนต่างมีประสบการณ์ในการบินเกือบๆ 6,000 ชั่วโมง ขณะที่ลูกเรือคนอื่นๆ อีก 5 คนมาจากสเปน, รัสเซีย, เซเชลส์, โคลอมเบีย และคีร์กีซสถาน ประเทศละ 1 คน
ฆออิธ อัล-ฆออิธ ผู้บริหารสายการบินฟลายดูไบ ระบุเมื่อวันเสาร์ (19) ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะฟันธงสาเหตุการตกของเที่ยวบินนี้ แต่เจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ในเบื้องต้นว่า อาจจะเกิดจากความผิดพลาดของนักบิน ปัญหาทางเทคนิค หรือไม่ก็กระแสลมที่แรงจัดขณะเกิดเหตุ
ระหว่างแถลงข่าวที่ดูไบเมื่อวันอาทิตย์(20) อัล-ฆออิธระบุว่า “เรามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าทางการรัสเซียสามารถจัดการเงื่อนไขต่างๆ ในพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับการบิน”
“เราได้รับแจ้งว่าสนามบินเปิดทำการตามปกติแล้ว เครื่องบินสามารถเดินทางและลงจอดได้อย่างปลอดภัย... และสภาพอากาศก็ดีพอที่จะทำการบินได้”
ฟลายดูไบยังเตรียมที่จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือที่เสียชีวิต สูงสุดรายละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตามเงื่อนไขของการบิน