เอเอฟพี - กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังพยายามสร้างฐานที่มั่นในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ซึ่งมีความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่ หัวหน้าของกลุ่มกบฏมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนี้เตือนในวันนี้ (7 มี.ค.)
ประธานของกลุ่มแนวหน้าปลดแอกอิสลามโมโร (MILF) มูรัด เอ็บรอฮิม กล่าวว่า กลุ่มหัวรุนแรงไอเอสพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจในเรื่องการหยุดลงของความพยายามที่จะยุติการก่อกบฏแบ่งแยกดินแดนของชาวมุสลิมในภูมิภาคมินดาเนาทางตอนใต้ที่ดำเนินมาหลายสิบปี
กระบวนการสันติภาพดังกล่าวหยุดลงตั้งแต่รัฐสภาฟิลิปปินส์ล้มเหลวในการผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งได้รับการเห็นพ้องร่วมกันระหว่างรัฐบาลและกลุ่ม MILF ว่าจะให้สถานะปกครองตนเองแก่ภูมิภาคนี้
“ในตอนนี้ หลังจากไม่มีการผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าว เราค่อนข้างเป็นกังวลว่าพวกเขา (ไอเอส) อาจใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ เพราะว่าในตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกของคนในพื้นที่นี้รุนแรงมาก มีความไม่พอใจหลังจากกฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ผ่านสภา พวกเขาอาจใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้” มูรัดบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงกัวลาลัมเปอร์
กลุ่มติดอาวุธที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ซึ่งควบคุมพื้นที่กว้างขวางในอิรักและซีเรียได้ปลุกปลั่นให้มีการต่อสู้แตกหักกับกองทัพในภาคใต้ของฟิลิปปินส์นับตั้งแต่ที่รัฐสภาไม่ผ่านข้อตกลงสันติภาพนี้
มูรัดกล่าวว่า MILF กำลังพยายามเจรจากับกลุ่มติดอาวุธที่สวามิภักดิ์ต่อไอเอสเพื่อห้ามปรามไม่ให้พวกเขาก่อเหตุโจมตีเพิ่มเติม
การก่อกบฏแบ่งแยกดินแดนของชาวมุสลิมในภาคใต้ของฟิลปปินส์ก่อให้เกิดความรุนแรงเป็นเวลานานหลายสิบปีและคร่าชีวิตคนไปแล้ว 120,000 คน
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์นิกายคาทอลิก
กลุ่ม MILF ลงนามข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลของประธานาธิบดีเบนิกโญ อากีโน ในปี 2014 เพื่อยุติการต่อสู้เพื่อเอกราชของพวกเขาซึ่งเริ่มต้นในช่วงทศวรรษ 1970
วาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปีของอากีโนจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนและกลุ่ม MILF ให้คำมั่นว่าจะเคารพข้อตกลงหยุดยิงในขณะที่พวกเขารองคอนการเลือกตั้งฟิลิปปินส์ในช่วงกลางปี
“เราไม่สามารถละทิ้งการต่อสู้ด้วยอาวุธทั้งหมดได้ แต่เราเชื่อเสมอว่าเราต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการสันติภาพเป็นอันดับแรก เพราะเราเชื่อว่าหนทางแก้ปัญหายังคงต้องใช้วิธีทางการเมือง” มูรัดกล่าว
“ตราบใดที่กระบวนการสันติภาพมีโอกาสที่จะคืบหน้า เราไม่ต้องการที่จะกลับไปสู่ความรุนแรงอีกครั้ง”
