เอเอฟพี - ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังนาโตเตือนสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (1 มี.ค.) ว่ารัสเซียกำลังช่วยเหลือประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย เปลี่ยนวิกฤตผู้อพยพเป็นอาวุธเล่นงานตะวันตก
พล.อ.อ.ฟิลิป บรีดเลิฟ ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองกำลังพันธมิตรยุโรป ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังยุโรปของกองทัพสหรัฐฯ เผยว่าการไหลบ่าอย่างมโหฬารของพวกผู้ลี้ภัยจากซีเรียที่ถูกสงครามฉีกขาด กำลังก่อความไร้เสถียรภาพแก่ประเทศต่างๆ ในยุโรปที่พวกเขากำลังหลบหนีเข้าไป และความปั่นป่วนนี้กำลังก่อความได้เปรียบแก่มอสโก
“รัสเซียและรัฐบาลของอัสซาดกำลังร่วมมือกันจงใจใช้ผู้อพยพเป็นอาวุธในความพยายามคว่ำโครงสร้างต่างๆ ของยุโรปและทำลายความตั้งใจของยุโรป” พล.อ.อ.บรีดเลิฟ บอกกับคณะกรรมาธิการด้านกิจการทหารของวุฒิสภาสหรัฐฯ
ในการกล่าวถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสนับสนุนนายอัสซาดของรัสเซียที่ยืดเยื้อมากว่า 6 เดือน และกรณีที่ผู้นำซีเรียใช้ระเบิดถังน้ำมันโจมตีในพื้นที่พลเรือน พล.อ.อ.บรีดเลิฟระบุว่ามอสโกและดามัสกัสจงใจกระพือวิกฤตเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของชาวซีเรีย
“การใช้อาวุธแบบสุ่มๆ ของนายบาชาร์อัล-อัสซาด และการใช้อาวุธโดยขาดความแม่นยำของกองทัพรัสเซีย ผมไม่สามารถหาเหตุผลอื่นมาสนับสนุนมันได้มากไปกว่าการที่มันเป็นความพยายามกระตุ้นให้ผู้อพยพเคลื่อนย้ายและทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นปัญหาของคนอื่น”
พล.อ.อ.บรีดเลิฟ ยังกล่าวหารัสเซียกำลังเป็นภัยคุกคามต่อตัวสหรัฐฯ เองมากขึ้นด้วย “รัสเซียเลือกที่จะเป็นฝ่ายตรงข้ามและส่อเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรยุโรปและคู่หูอื่นๆในระยะยาว” พร้อมบอกต่อว่า “รัสเซียปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีอิทธิพลเหนือเหล่าประเทศเพื่อนบ้านในเขตกันชนของพวกเขาโดยไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง ดังนั้นจึงใช้กำลังทหารละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน จอร์เจียและประเทศอื่นๆ อย่างมอลโดวา”
นายพลรายนี้อ้างว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในยูเครนได้รับรายงานการโจมตีกว่า 450 จุดตามแนวหน้าทางภาคตะวันออกของยูเครน พื้นที่ฝ่ายกบฏนิยมรัสเซียต่อต้านรัฐบาลฝักใฝ่ตะวันตกของเคียฟ
มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 9,000 คนในสงคราม ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 22 เดือนระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกบฏฝักใฝ่รัสเซีย ทางภาคตะวันออกของยูเครน