xs
xsm
sm
md
lg

โพลระบุ “ทรัมป์-คลินตัน” นำโด่ง “ซูเปอร์ทิวส์เดย์” แต่เจ้าพ่ออสังหาฯ ก็ทำรีพับลิกันร้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งที่จะได้เป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกันเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี  กล่าวปราศรัยในการหาเสียงที่มหาวิทยาลัยวัลดอสตา สเตท, มลรัฐจอร์เจีย วันจันทร์ (29 ก.พ.) ก่อนหน้าวันสำคัญคือ วันซูเปอร์ทิวสเดย์ 1 มีนาคม  ซึ่งจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกันในรัฐต่างๆ รวม 11 มลรัฐ </i>
เอเจนซีส์ – ชาวอเมริกันนับล้านในสิบกว่ามลรัฐ ออกมาลงคะแนนในศึกใหญ่ “ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” วันอังคาร (1 มี.ค.) ที่โพลหลายสำนักฟันธงว่า ฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ เก็บคะแนนลอยลำค่อนข้างแน่นอน ขณะเดียวกัน ทางฟากรีพับลิกันเริ่มมีสัญญาณแตกหักชัดเจนขึ้น ระหว่างฝั่งที่บอกว่า จะสนับสนุนผู้ที่พรรคเสนอชื่อลงเลือกตั้งประธานาธิบดี กับอีกพวกที่บอกว่า เป็นตายอย่างไรก็เชียร์ทรัมป์ไม่ลง

ก่อนเปิดคูหาในวันอังคาร (1) ผู้สมัครทั้งของรีพับลิกันและของเดโมแครตทุ่มความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อขอคะแนนจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ในช่วงสำคัญที่สุดช่วงหนึ่งของศึกเลือกตั้งขั้นต้นประจำปีนี้ ซึ่งทั้ง 2 พรรคต่างจัดการเลือกตั้งขั้นต้นวันเดียวกันรวมแล้วฝ่ายละ 11 มลรัฐ โดย 10 รัฐมีการโหวตของทั้ง 2 พรรค ขณะที่อีก 1 รัฐนั้นแต่ละพรรคจัดในรัฐที่ต่างกัน

สถานการณ์ของคลินตันผ่อนคลายลงอย่างชัดเจน หลังจากเธอคว่ำเบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากรัฐเวอร์มอนต์ที่ประกาศตัวเป็นนักสังคมนิยมประชาธิปไตย ได้อย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 ก.พ.) ทำให้เธอกวาดชัยชนะรัฐที่ 3 จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาแล้ว 4 มลรัฐ

สำหรับศึกใหญ่ “ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” นั้น เซียนการเมืองชี้ว่า หากอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ผู้นี้ ได้คะแนนเสียงจากคนผิวสีพอๆ กับที่ทำได้ในเซาท์แคโรไลนาคือ 86% ในสนามเลือกตั้งที่เป็นรัฐทางใต้อย่าง แอละแบมา จอร์เจีย และเวอร์จิเนีย คลินตันจะคืนสู่ฐานะเต็งหนึ่งนำโด่งของเดโมแครตที่ผูกขาดมาตั้งแต่ช่วงต้นการหาเสียง ก่อนจะมาสะดุดกระแสแซนเดอร์สฟีเวอร์ช่วงสั้นๆ เมื่อเร็วๆ นี้

ในส่วนรีพับลิกันนั้น ผลสำรวจระบุว่า ทรัมป์มีคะแนนนำอย่างน้อย 8 ใน 11 รัฐที่รีพับลิกันเปิดเลือกตั้งขั้นต้นวันอังคาร นอกจากนั้น โพลของซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซียังชี้ว่า เศรษฐีพันล้านผู้นี้ได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นในการสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศคือ 49% ขณะที่อันดับ 2 มาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากฟลอริดา ได้แค่ 16% อันดับ 3 เป็นของเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากเทกซัส 15%, เบน คาร์สัน อดีตศัลยแพทย์ระบบประสาท 10% และจอห์น เคสิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ 6%
<i>ฮิลลารี คลินตัน ตัวเก็งที่จะได้เป็นผู้สมัครของพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี (กลาง) ขึ้นเวทีพร้อมกับผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย เทอร์รี แมคอาวลิฟฟ์ (ซ้าย) ระหว่างการหาเสียงที่มหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน ในเมืองแฟร์แฟกซ์, มลรัฐเวอร์จิเนีย วันจันทร์ (29 ก.พ.) </i>
ศึกซูเปอร์ ทิวส์เดย์ เดิมพันของผู้สมัครเดโมแครต คือตัวแทนผู้ลงคะแนน 865 คน หรือ 36% ของคะแนนที่ต้องทำให้ได้ เพื่อคว้าตำแหน่งตัวแทนพรรคลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายนปีนี้
ขณะที่ผู้สมัครรีพับลิกันมีตัวแทนผู้ลงคะแนนให้แย่งชิงเกือบ 600 คน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ต้องการ 1,237 คนเพื่อคว้าตั๋วลงศึกชิงทำเนียบขาว

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในรีพับลิกันดูเหมือนร้อนระอุพอๆ กับสถานการณ์การหาเสียง เนื่องจากปรากฏรอยร้าวใหม่ชัดเจนระหว่างฝ่ายที่ตัดสินใจว่า ถ้าทรัมป์ได้เป็นตัวแทนพรรคก็จะให้การสนับสนุน กับอีกกลุ่มที่ยืนกรานว่า หัวเด็ดตีนขาดก็เลือกพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ปากพล่อยคนนี้ไม่ลง และความขัดแย้งนี้อาจส่งผลยาวไกลกว่าการเลือกตั้งขั้นต้น แต่ท้าทายความสามัคคีของพรรคแม้แต่หลังจากการเลือกตั้งจบลง และไม่ว่าใครจะชนะก็ตาม

ทั้งนี้ เบน แซซซี วุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากรัฐเนแบรสกา ที่กำลังเป็นดาวเด่นในกลุ่มอนุรักษนิยม คือวุฒิสมาชิกคนแรกที่ประกาศว่า จะสนับสนุนพรรคทางเลือกที่ 3 หากทรัมป์ได้เป็นตัวแทนพรรค วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 กพ.) แซซซียังโพสต์เฟซบุ๊กปลุกเร้าสมาชิกพรรคช่วยกันคิดว่า ถ้าได้ทรัมป์เป็นผู้นำ อุดมการณ์และจุดยืนดั้งเดิมของรีพับลิกัน อาทิ การหยุดยั้งโอบามาแคร์ และบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 จะคงอยู่หรือไม่
<i>ผู้สนับสนุนและผู้ประท้วง โดนัลด์ ทรัมป์  เฉียดกันที่มหาวิทยาลัยวัลดอสตา สเตท, จอร์เจีย เมื่อวันจันทร์ (29 ก.พ.) </i>
สำหรับผู้นำรีพับลิกันคนอื่นๆ แม้ไม่ได้ต่อต้านเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ชัดเจนขนาดนี้ แต่ก็ส่งสัญญาณในลักษณะคล้ายกับแซซซี โดยเฉพาะกรณีที่ทรัมป์ไม่ปฏิเสธการสนับสนุนจากเดวิด ดุ๊ก อดีตผู้นำกลุ่มเหยียดผิว คู คลักซ์ แคลน (เคเคเค) ทันที

มิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้สมัครของรีพับลิกันปี 2012 วิจารณ์ว่า ทรัมป์ “ขาดคุณสมบัติ” และนิกกี้ เฮลีย์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาที่ช่วยรูบิโอหาเสียงในแอตแลนตา ประกาศว่า จะไม่ยอมรามือจากการต่อสู้กับผู้ที่ไม่ปฏิเสธการสนับสนุนจากเคเคเค

ด้านทรัมป์กล่าวแก้เรื่องนี้ว่า ในตอนที่ถูกทีวีซีเอ็นเอ็นสัมภาษณ์นั้น หูฟังไม่ค่อยดี ทำให้เขาไม่เข้าใจ พร้อมกับบอกว่าผู้สัมภาษณ์หยิบเรื่องดุ๊กมาถามทำไม ในเมื่อเขาประกาศไม่รับการสนับสนุนจากอดีตผู้นำเคเคเคไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม นักเขียนคนดังที่สนับสนุนรีพับลิกันและนักเขียนสายอนุรักษนิยมหลายคนพากันก่อกระแสต่อต้านทรัมป์ในสื่อสังคม ด้วยการติดแฮชแท็ก "NeverTrump" บนทวิตเตอร์
<i>มาร์โค รูบิโอ (ขวา) ซึ่งพยายามไล่ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ในการชิงเป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกันเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี  โบกมือให้กับผู้สนับสนุนของเขา โดยขึ้นเวทีพร้อมกับ บ๊อบบี้ จินดัล อดีตผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา คนดังอีกคนหนึ่งของพรรครีพับลิกัน  ระหว่างการหาเสียงที่เมืองโอคลาโฮมาซิตี, รัฐโอคลาโฮมา วันจันทร์ (29 ก.พ.) </i>
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีได้สอบถามวุฒิสมาชิกและผู้ว่าการรัฐของรีพับลิกันทั่วประเทศว่า จะสนับสนุนทรัมป์หรือไม่ หากนักธุรกิจคนดังได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรค ผลปรากฏว่ามผู้ที่ให้คำตอบที่บอกว่า จะไม่สนับสนุนทรัมป์นั้น ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งเพียงนิดเดียว

หนึ่งในผู้สนับสนุนหน้าใหม่ของทรัมป์คือ คริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์, เจฟฟ์ เซสชันส์ วุฒิสมาชิกแอละแบมา หนึ่งในผู้ต่อต้านการแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองคนสำคัญในรัฐสภา

เจ้าหน้าที่รีพับลิกันอีกหลายคนบอกว่า จะสนับสนุนหากทรัมป์ได้รับการเสนอชื่อ แม้บางคนยอมรับว่า สนับสนุนอย่างลังเลก็ตาม

โรเบิร์ต เบนต์ลีย์ ผู้ว่าการรัฐแอละแบมา เปิดใจเมื่อวันจันทร์ (29 ก.พ.) ว่า แม้ไม่คิดว่าทรัมป์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ความที่เป็นสมาชิกพรรค ดังนั้น จึงต้องสนับสนุนผู้ที่พรรคเสนอชื่อ

ขณะเดียวกัน ผู้นำรีพับลิกันอีกหลายคนกังวลว่า หากทรัมป์ได้เป็นตัวแทนพรรคจะส่งกระทบยาวไกลถึงการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกและผู้ว่าการรัฐด้วย

สมาชิกรีพับลิกันบางคน อาทิ แมตต์ แมคโควิก นักยุทธศาสตร์ของรีพับลิกันที่ไม่ได้ทำงานให้ผู้สมัครคนใดในศึกเลือกตั้ง 2016 บอกว่า ผู้สมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกบางคนอาจต้องละทิ้งความเป็นเอกภาพของพรรคเพื่อปกป้องอนาคตทางการเมืองของตัวเอง

กำลังโหลดความคิดเห็น