เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันขยับขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันพฤหัสบดี (25 ก.พ.) หลังเวเนซุเอลาเพิ่มความหวังต่อความเป็นไปได้ของการจำกัดกำลังผลิต ปัจจัยทางพลังงานดันวอลล์สตรีทพุ่งแรง ส่วนทองคำปิดลบในกรอบแคบๆ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 92 เซ็นต์ ปิดที่ 33.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 88 เซ็นต์ ปิดที่ 35.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาขยับอยู่แดนลบในช่วงต้นของการซื้อขาย แต่หลังจากนั้นก็พุ่งขึ้นตามรายงานข่าวอ้างคำบอกเล่าของรัฐมนตรีพลังงานเวเนซุเอลาที่เผยว่าประเทศของเขากำลังเตรียมประชุมกับชาติผู้ผลิตอื่นๆ ในเดือนมีนาคม เพื่อหารือถึงแนวทางสร้างเสถียรภาพแก่ตลาด
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัสเซียกับสมาชิกโอเปกอย่างซาอุดีอาระเบีย เวเนซุเอลา และกาตาร์ แถลงว่าบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการตรึงกำลังผลิต ซึ่งจะเปิดทางให้ประเทศผู้ผลิตหลักอื่นๆ ดำเนินการแบบเดียวกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (18 ก.พ.) พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นช่วยลดความกังวลว่าเหล่าธนาคารต่างๆ อาจได้รับผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้ และนักลงทุนเห็นโอกาสในการช้อนซื้อหลังจากวอลล์สตรีทตกอยู่ท่ามกลางความผันผวนช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 212.30 จุด (1.29 เปอร์เซ็นต์) ปิด 16,697.29 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 21.90 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,951.70 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 39.60 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,582.21 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปิดบวก 3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ราคาน้ำมันกลายเป็นอิทธิพลหลักของตลาดในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าอุปสงค์ทางพลังงานที่อ่อนแอคือสัญญาการเติบโตอันเฉื่อยชาของเศรษฐกิจ
หุ้นทั้ง 10 กลุ่มในดัชนี S&P 500 ต่างปิดบวกถ้วนหน้า นำโดยภาคการเงินที่ขยับขึ้น 1.38 เปอร์เซ็นต์ หลังจากก่อนหน้านี้หุ้นภาคพลังงานร่วงลงไปถึง 12 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016 ท่ามกลางความกังวลว่าบริษัทพลังงานต่างๆ อาจผิดนัดชำระหนี้
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (25 ก.พ.) ขยับลงเล็กน้อย นักลงทุนขายทำกำไร หลังจากพุ่งขึ้นอย่างแรง 2 วันก่อนหน้านี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 30 เซ็นต์ ปิดที่ 1,238.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์