รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงในวันจันทร์ (22 ก.พ.) ว่า การที่จีนส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการในทะเลจีนใต้ ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการที่สหรัฐฯ ส่งกำลังทหารไปประจำการที่หมู่เกาะฮาวาย นับเป็นการส่งสัญญาณพร้อมต่อสู้ไม่มีอ่อนข้อ ก่อนหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ เดินทางไปเยือนสหรัฐฯ สัปดาห์นี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมไต้หวันและสื่อสหรัฐฯ ระบุว่าจีนนำเอาระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศเข้าไปประจำการที่เกาะวูดดี้ หรือที่ฝ่ายจีนเรียกชื่อว่าเกาะหย่งซิง ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะพาราเซล ที่อยู่ในทะเลจีนใต้ ถึงแม้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบของอเมริกันเองยังไม่มีการออกมายืนยันเรื่องนี้อย่างเปิดเผย แต่ก็พูดสำทับว่าความเคลื่อนไหวสะสมกำลังทหารในอาณาบริเวณดังกล่าวเป็นการสั่นคลอนเสถียรภาพ ขณะที่ปักกิ่งเองก็ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธเรื่องนี้ และหันไปมุ่งย้ำว่าในเมื่อดินแดนเหล่านี้อยู่ใต้อธิปไตยของตน จีนย่อมมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการป้องกันตามที่เห็นสมควร
ในวันจันทร์ (22) เมื่อถูกสอบถามว่าเรื่องทะเลจีนใต้ และเรื่องขีปนาวุธที่เกาะวูดดี้ จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยด้วยหรือไม่ ในตอนที่รัฐมนตรีหวังเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของฝ่ายอเมริกัน ปรากฏว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวา ชุนอิง ตอบว่า วอชิงตันไม่ควรใช้ประเด็นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารในหมู่เกาะทะเลจีนใต้ มาเป็น “ข้ออ้างบังหน้าเพื่อสร้างความสับสนวุ่นวาย”
“สหรัฐฯ นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องในกรณีพิพาททะเลจีนใต้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ได้เป็นและไม่ควรเป็นปัญหาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ” หวากล่าวในระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน
ประเทศจีนหวังว่าสหรัฐฯ จะทำตามคำมั่นสัญญาของตนที่จะไม่เข้าข้างหนึ่งข้างใดในกรณีพิพาทช่วงชิงกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ และยุติ “การตีฆ้องร้องป่าว” ประเด็นเรื่องนี้ และก่อให้เกิดความตึงเครียดขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องที่จีนได้สร้างที่มั่นทางทหาร “จำนวนจำกัด” ขึ้นที่บริเวณดังกล่าว โฆษกหญิงผู้นี้บอก
“การที่จีนกำลังจัดสร้างสถานที่ตลอดจนเครื่องมืออุปกรณ์เข้าประจำการเพื่อการป้องกันในจำนวนจำกัด ในดินแดนของตนเองนั้น โดยเนื้อหาสาระแล้วก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากการที่สหรัฐฯ เข้าพิทักษ์ปกป้องฮาวายเลย” หวากล่าวต่อ
เธอบอกอีกว่า การที่เรือและเครื่องบินของสหรัฐฯ ดำเนินการตรวจการณ์และสอดแนมเฉียดใกล้ๆ ดินแดนของจีนอยู่บ่อยครั้งในระยะไม่กี่ปีหลังมานี้ต่างหาก คือสิ่งที่เพิ่มพูนความตึงเครียดของภูมิภาคแถบนี้
“นี่แหละคือสาเหตุใหญ่ที่สุดของการสะสมเพิ่มพูนกำลังทหารในทะเลจีนใต้ เราหวังว่าสหรัฐฯ ไม่ได้เกิดความสับสนระหว่างถูกกับผิดในประเด็นปัญหานี้ หรือปฏิบัติตนแบบสองมาตรฐาน”
รัฐมนตรีหวังมีกำหนดเดินทางไปสหรัฐฯ ตั้งแต่วันอังคาร (23) จนถึงวันพฤหัสบดี (25)
หวากล่าวว่า คาดหมายว่าหวังยังจะหารือกับฝ่ายสหรัฐฯ ในเรื่องเกี่ยวกับเกาหลีเหนือด้วย โดยที่เธอกล่าวย้ำว่า จีนนั้นคัดค้านการที่สหรัฐฯ อาจจะนำเอาระบบป้องกันขีปนาวุธอันก้าวหน้าไฮเทคของตนไปติดตั้งประจำการในเกาหลีใต้ โดยอ้างเหตุที่เมื่อเร็วๆ นี้เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการยิงจรวดส่งดาวเทียม ซึ่งถูกมองว่าคือการอำพรางการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล
ทั้งนี้ ในทันทีที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงจรวดได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ก็แถลงว่าจะเปิดการหารือกันเรื่องนำเอาระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense หรือTHAAD) ไปประจำการในเกาหลีใต้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางการจีนและรัสเซียได้ออกมาแสดงปฏิกิริยาคัดค้านหนัก เนื่องจากพิสัยทำการของระบบทาดนั้นไกลล้ำเกินกว่าดินแดนโสมแดงมาก โดยอาจแผ่คลุมไปจนถึงภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน และดินแดนหลายๆ ส่วนของรัสเซียด้วย