รอยเตอร์ - รัฐมนตรีต่างประเทศจีนยืนยันผ่านรอยเตอร์ในวันศุกร์(12ก.พ.) ว่าปักกิ่งจะสนับสนุนมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่จะใช้เกาหลีเหนือชดใช้อย่างสมควรกับการยิงจรวดเมื่อไม่นานที่ผ่านมา พร้อมระบุเป้าหมายคือการนำพาเปียงยางคืนสู่โต๊ะเจรจา
ขณะเดียวกันนายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศปักกิ่ง ได้แสดงความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธระดับบรรยากาศชั้นสูง” (Terminal High Altitude Area Defense หรือ THAAD) ในเกาหลีใต้ โดยตั้งข้อสังเกตว่ามันอาจใช้เล็งเป้าใส่จีน
เกาหลีเหนืออยู่ใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติมาตั้งแต่การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกในปี 2006 จากนั้นก็ได้ดำเนินการทดสอบปรมาณูอีก 3 ครั้ง ในนั้นรวมถึงหนล่าสุดเมื่อเดือนก่อน เช่นเดียวกับการยิงขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้วอชิงตันและจีนมักมีจุดยืนแตกต่างถึงแนวทางตอบโต้เกาหลีเหนือ ด้วยวอชิงตันเรียกร้องให้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงขึ้น แต่ทางปักกิ่งย้ำถึงความจำเป็นของการเจรจา
อย่างไรก็ตามในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในเมืองมิวนิค นายหวังระบุว่าถึงเวลาแล้วสำหรับการออกมติที่หนักหน่วงและครอบคลุมขอบเขตต่างๆอย่างกว้างขวาง "เราสนับสนุนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสำหรับใช้มาตรการเพิ่มเติมและรับเอามติใหม่เพื่อเกาหลีเหนือจะต้องชดใช้ที่จำเป็น และแสดงให้เห็นว่านี่คือผลลัพธ์จากพฤติกรรมของพวกเขา" รัฐมนตรีรายนี้กล่าวผ่านล่าม
เวลานี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังหารือกันเกี่ยวกับมติใหม่ ด้วยเหล่าคณะผู้แทนบอกว่าอเมริกาได้ผลักดันมาตรการเข้มข้นขึ้นในขอบเขตที่มากไปกว่าการเล็งเป้าหมายเล่นงานอาวุธปรมาณูของเกาหลีเหนือและโครงการขีปนาวุธ ขณะที่จีนต้องการให้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมใดๆอยู่บนคำถามเกี่ยวกับการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
เมื่อถูกถามว่าปักกิ่งพร้อมสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหนักหน่วงขึ้นหรือไม่ นายหวังตอบว่ามติจะมีขอบเขตที่กว้างขวาง แต่จุดประสงค์ของมันควรเป็นการระงับความพยายามของเปียงยางในการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์และขีปนาวุธมากกว่า
"มาตรการคว่ำบาตรไม่ใช่จุดสิ้นสุด วัตถุประสงค์คือเป็นการสร้างความมั่นใจว่าประเด็นนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีเหนือควรถูกนำพากลับสู่ช่องทางของการแก้ปัญหาผ่านการเจรจา" เขากล่าว
ความตึงเครียดในภูมิภาคพุ่งสูงขึ้น และในวันพฤหัสบดี(11ก.พ.) เกาหลีเหนือได้ขับไล่ชาวเกาหลีใต้ทุกคนพ้นจากเขตอุตาหกรรมร่วมแกซอง พร้อมประณามความเคลื่อนไหวของโซลที่สั่งระงับปฏิบัติการทั้งหมด เพื่อตอบโต้การยิงจรวดของเปียงยางเมื่อวันอาทิตย์(7ก.พ) ว่าเป็นการประกาศสงคราม
โซลตอบโต้การยิงจรวดของเปียงยาง ด้วยการเตรียมคุยกับวอชิงตันอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ในความเป็นไปได้ของการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธล้ำสมัยของสหรัฐฯ
ในเรื่องนี้ นายหวังแสดงความกังวลต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าวและเรียกร้องให้สหรัฐฯทบทวนยุทธศาสตร์นี้ "ข้อเท็จจริงชัดเจนอยู่แล้ว การประจำการระบบ THAAD โดยสหรัฐฯ เป็นอะไรที่เกินเลยไปกว่าความจำเป็นด้านการป้องกันตนเองในคาบสมุทรเกาหลี การค้มครองนี้จะหมายถึงการเข้าถึงส่วนลึกของทวีปเอเชีย ก่อผลประทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีนและประเทศเอเชียอื่นๆ"
เขาบอกอีกว่า วอชิงตันจำเป็นต้องชี้แจงถึงแรงจูงใจของความเคลื่อนไหวดังกล่าวให้ชัดเจน "ไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ คนทั่วไปก็รู้ดีว่าการประจำการระบบ THAAD ไม่ใช่แค่ปกป้องเกาหลีใต้ แต่มีวาระอื่นๆที่ใหญ่กว่าซ่อนอยู่และบางทีมันอาจมีเป้าหมายอยู่ที่จีน"
