เอเอฟพี - กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวันอาทิตย์ (21 ก.พ.) ใกล้กับศาสนสถานของมุสลิมชีอะห์บริเวณรอบนอกของกรุงดามัสกัส รวมถึงที่เมืองฮอมส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า 150 ราย ในช่วงเวลาเดียวกับที่ทางอเมริกาและรัสเซียพยายามหาทางทำข้อตกลงหยุดยิงที่ซีเรีย
ที่บริเวณใกล้กับกรุงดามัสกัส มีการโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อน บริเวณศาสนสถานของมุสลิมชีอะห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 96 ราย ขณะที่ผู้บาดเจ็บนั้นมีมากถึง 178 ราย ในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย
นักข่าวของเอเอฟพีระบุว่า จุดที่เกิดระเบิดนั้นอยู่ห่างจากศาสนสถานดังกล่าวประมาณ 400 เมตร ซึ่งบริเวณนี้เคยเกิดเหตุร้ายมาแล้วเมื่อเดือนมกราคม ตอนนั้นมีคนตาย 70 ราย กลุ่มไอเอสยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือ
นอกจากนี้ยังมีรายงานเหตุระเบิดจากคาร์บอมบ์ 2 คัน ในเขตอัล-ซาห์รา ใจกลางเมืองฮอมส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน
กลุ่มไอเอสระบุในโลกออนไลน์ว่า มือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 รายของตนได้ก่อเหตุที่ศาสนสถานของมุสลิมชีอะห์ ส่วนอีก 2 รายก็ขับรถคาร์บอมบ์เข้าไปคร่าชีวิตผู้คนที่เมืองฮอมส์
ภาพจากสถานีโทรทัศน์ในซีเรียแสดงให้เห็นถึงสภาพในเมืองฮอมส์ โดยมีหน่วยฉุกเฉินพากันนำร่างที่ไหม้เกรียมขึ้นเปลขนย้ายผ่านย่านร้านค้าที่ได้รับความเสียหาย รถราพังยับเยิน
ขณะเดียวกัน บรรดาชาติมหาอำนาจกำลังผลักดันให้มีการยุติสงครามในซีเรีย โดยหวังจะได้เห็นการหยุดยิงมีผลในวันศุกร์ แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ในเรื่องเงื่อนไขต่างๆ
เมื่อวันอาทิตย์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “จอห์น เคร์รี” ได้ไปพูดคุยกับผู้ดำรงตำแหน่งเดียวกันของรัสเซีย “เซอร์เก ลาฟรอฟ” อย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อพยายามหาหนทางให้เกิดการพักรบในซีเรีย
หลังจากนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียก็ได้ระบุว่า ลาฟรอฟได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับเคร์รีอีก 2 ครั้ง จนได้ข้อสรุปเงื่อนไขการหยุดยิง เตรียมส่งให้กับประธานาธิบดีของแต่ละฝ่าย
บรรดาชาติมหาอำนาจเสนอให้มีการพักรบมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสำคัญ ที่รวมถึงการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อันจะเปิดทางให้การเจรจาสันติภาพกลับคืนมาอีกครั้ง