(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Beijing continues crackdown on capital flight from China
By Asia Unhedged
15/02/2016
ปักกิ่งทราบดีว่าแนวทางสำคัญประการหนึ่งในการหยุดยั้งกระแสเงินทุนไหลออกนอกประเทศ คือ การทำให้ประเทศจีนเป็นที่ดึงดูดของนักลงทุน ทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนจีน แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ทางการจีนก็ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามการซิกแซ็กนำเงินทุนออกไปด้วย
เมื่อปีที่แล้ว ศุลกากรจีนจับกุมสตรีนางหนึ่งขณะพยายามเดินทางออกนอกประเทศพร้อมกับธนบัตรดอลลาร์สหรัฐอเมริกามูลค่า 250,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ เป็นความพยายามลักลอบนำเงินตราต่างประเทศออกนอกแผ่นดินโดยแปะธนบัตรเหล่านั้นไว้กับอกและน่อง อีกทั้งยังซุกไว้ในรองเท้าด้วย สาเหตุที่นางดำเนินการสุ่มเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ มาจากความหวั่นวิตกต่อการที่ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนซึ่งได้รับจากการออมเงินไว้กับธนาคาร ก็ลดต่ำ โดยเป็นผลจากที่มีการหั่นดอกเบี้ยบ่อยครั้ง
วิธีของสตรีท่านนี้นับว่าไม่สู้จะเป็นที่นิยมกันนักในบรรดาผู้ประสงค์จะนำเงินตราต่างประเทศออกจากแผ่นดินใหญ่ของจีน โดยวิธียอดนิยมในปัจจุบัน มักเป็นแบบที่ทำกันเท่าที่กฎหมายเปิดช่องให้ กล่าวคือหอบเงินสดออกนอกประเทศครั้งละเพียง 50,000 ดอลลาร์ อันเป็นจำนวนสูงสุดต่อปีที่ทางการจีนอนุญาต กลุ่มชนที่ทำวิธีนี้มักจะเป็นครอบครัวผู้มั่งคั่งร่ำรวย โดยหิ้วออกไปเองบ้าง พลางไหว้วานญาติพี่น้อง หรือกระทั่งมิตรสหายให้ช่วยดำเนินการ เที่ยวละก้อน ก้อนละห้าหมื่นดอลลาร์ ดังนั้น การไหลออกของเงินตราต่างประเทศด้วยวิธีนี้จึงรวมมูลค่าเป็นหลายๆ ล้าน
ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีอัตราขยายตัวไม่คึกคัก กระแสความนิยมที่จะหิ้วเงินออกนอกประเทศจึงส่งผลกดดันเงินหยวนของจีนอย่างมากมาย โดยทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหาย พร้อมกับป่วนตลาดโลกด้วย ทั้งนี้ ประมาณการกันว่านับจากปี 2015 เป็นต้นมา บริษัทธุรกิจและบุคคลธรรมดาได้กระทำการหอบเงินตราต่างประเทศออกนอกแผ่นดินจีนไปทั้งสิ้นเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว
ในเวลาเดียวกับที่เม็ดเงินทะลักออกไปจากระบบเศรษฐกิจอย่างมากมายนั้น ปักกิ่งต้องนำเม็ดเงินจากทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ปริมาณมหาศาลเข้าไปในระบบ เพื่อปกป้องเงินตราของประเทศและเพื่อคุมสภาพการณ์ความเชื่อมโยงระหว่างระบบเศรษฐกิจจีนกับระบบการเงินของโลกให้มีเสถียรภาพและสม่ำเสมอ
แนวทางหนึ่งในการหยุดกระแสเงินทุนไหลออกนอกประเทศคือ การทำให้ประเทศจีนเป็นที่ดึงดูดของนักลงทุน ทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนจีน ปักกิ่งตระหนักดีว่าประเทศจีนมิใช่แกนกลางของระบบเศรษฐกิจโลก อีกทั้งเงินหยวนก็มีความบอบบางพอๆ กับเงินตราชั้นนำสกุลอื่นๆ
ในการนี้ ก้าวแรกที่ต้องทำในการดึงดูดเงินทุน คือ คลายการควบคุมอัตราดอกเบี้ย และยุติการปล่อยกู้แก่กลุ่มลูกค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่มีภาระหนี้สินหนักหน่วงรุนแรง และบรรดารัฐบาลท้องถิ่น ในท้ายที่สุดแล้ว มาตรการนี้จะบั่นทอนพลังของพวกผู้ทรงอิทธิพลอย่างแน่นอน นอกจากนั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังจะต้องคลายการยึดกุมระบบเศรษฐกิจด้วย
ขณะที่นักวิจารณ์ต่างชาติไม่เคยหน่ายกับการจับผิดความพยายามของทางการจีนในอันที่จะจำกัดกระแสเงินทุนหนีออกนอกประเทศ แต่ปักกิ่งก็พยายามอย่างสุดความสามารถ มีการห้ามถอนเงินหยวนจากธนาคารสาขาในต่างประเทศของบรรดาแบงก์จีน สำหรับในเซินเจิ้น ลูกค้าต้องแจ้งจองไว้กับสถาบันการเงินเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ เมื่อประสงค์จะนำเงินหยวนไปแลกเป็นเงินดอลลาร์ในโควตาสูงสุดต่อวัน ณ มูลค่า 10,000 ดอลลาร์
นอกจากนั้น บริษัทประกันภัยซึ่ง เมื่อก่อนหน้านี้ เคยได้รับอนุญาตให้ลงทุนได้ถึง 15% ของสินทรัพย์ในต่างแดน บัดนี้ ถูกสั่งให้ชะลอแผนการลงทุนในต่างประเทศไว้ก่อน เป็นจำนวนมาก
อาจจะเป็นก้าวเล็กๆ ทว่า แต่ละก้าวเหล่านี้ส่งผลดีได้อย่างมากมายในอันที่จะชะลอกระแสเงินทุนไหลออกนอกประเทศอันเชี่ยวกรากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
Beijing continues crackdown on capital flight from China
By Asia Unhedged
15/02/2016
ปักกิ่งทราบดีว่าแนวทางสำคัญประการหนึ่งในการหยุดยั้งกระแสเงินทุนไหลออกนอกประเทศ คือ การทำให้ประเทศจีนเป็นที่ดึงดูดของนักลงทุน ทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนจีน แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ทางการจีนก็ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามการซิกแซ็กนำเงินทุนออกไปด้วย
เมื่อปีที่แล้ว ศุลกากรจีนจับกุมสตรีนางหนึ่งขณะพยายามเดินทางออกนอกประเทศพร้อมกับธนบัตรดอลลาร์สหรัฐอเมริกามูลค่า 250,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ เป็นความพยายามลักลอบนำเงินตราต่างประเทศออกนอกแผ่นดินโดยแปะธนบัตรเหล่านั้นไว้กับอกและน่อง อีกทั้งยังซุกไว้ในรองเท้าด้วย สาเหตุที่นางดำเนินการสุ่มเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ มาจากความหวั่นวิตกต่อการที่ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนซึ่งได้รับจากการออมเงินไว้กับธนาคาร ก็ลดต่ำ โดยเป็นผลจากที่มีการหั่นดอกเบี้ยบ่อยครั้ง
วิธีของสตรีท่านนี้นับว่าไม่สู้จะเป็นที่นิยมกันนักในบรรดาผู้ประสงค์จะนำเงินตราต่างประเทศออกจากแผ่นดินใหญ่ของจีน โดยวิธียอดนิยมในปัจจุบัน มักเป็นแบบที่ทำกันเท่าที่กฎหมายเปิดช่องให้ กล่าวคือหอบเงินสดออกนอกประเทศครั้งละเพียง 50,000 ดอลลาร์ อันเป็นจำนวนสูงสุดต่อปีที่ทางการจีนอนุญาต กลุ่มชนที่ทำวิธีนี้มักจะเป็นครอบครัวผู้มั่งคั่งร่ำรวย โดยหิ้วออกไปเองบ้าง พลางไหว้วานญาติพี่น้อง หรือกระทั่งมิตรสหายให้ช่วยดำเนินการ เที่ยวละก้อน ก้อนละห้าหมื่นดอลลาร์ ดังนั้น การไหลออกของเงินตราต่างประเทศด้วยวิธีนี้จึงรวมมูลค่าเป็นหลายๆ ล้าน
ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีอัตราขยายตัวไม่คึกคัก กระแสความนิยมที่จะหิ้วเงินออกนอกประเทศจึงส่งผลกดดันเงินหยวนของจีนอย่างมากมาย โดยทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหาย พร้อมกับป่วนตลาดโลกด้วย ทั้งนี้ ประมาณการกันว่านับจากปี 2015 เป็นต้นมา บริษัทธุรกิจและบุคคลธรรมดาได้กระทำการหอบเงินตราต่างประเทศออกนอกแผ่นดินจีนไปทั้งสิ้นเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว
ในเวลาเดียวกับที่เม็ดเงินทะลักออกไปจากระบบเศรษฐกิจอย่างมากมายนั้น ปักกิ่งต้องนำเม็ดเงินจากทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ปริมาณมหาศาลเข้าไปในระบบ เพื่อปกป้องเงินตราของประเทศและเพื่อคุมสภาพการณ์ความเชื่อมโยงระหว่างระบบเศรษฐกิจจีนกับระบบการเงินของโลกให้มีเสถียรภาพและสม่ำเสมอ
แนวทางหนึ่งในการหยุดกระแสเงินทุนไหลออกนอกประเทศคือ การทำให้ประเทศจีนเป็นที่ดึงดูดของนักลงทุน ทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนจีน ปักกิ่งตระหนักดีว่าประเทศจีนมิใช่แกนกลางของระบบเศรษฐกิจโลก อีกทั้งเงินหยวนก็มีความบอบบางพอๆ กับเงินตราชั้นนำสกุลอื่นๆ
ในการนี้ ก้าวแรกที่ต้องทำในการดึงดูดเงินทุน คือ คลายการควบคุมอัตราดอกเบี้ย และยุติการปล่อยกู้แก่กลุ่มลูกค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่มีภาระหนี้สินหนักหน่วงรุนแรง และบรรดารัฐบาลท้องถิ่น ในท้ายที่สุดแล้ว มาตรการนี้จะบั่นทอนพลังของพวกผู้ทรงอิทธิพลอย่างแน่นอน นอกจากนั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังจะต้องคลายการยึดกุมระบบเศรษฐกิจด้วย
ขณะที่นักวิจารณ์ต่างชาติไม่เคยหน่ายกับการจับผิดความพยายามของทางการจีนในอันที่จะจำกัดกระแสเงินทุนหนีออกนอกประเทศ แต่ปักกิ่งก็พยายามอย่างสุดความสามารถ มีการห้ามถอนเงินหยวนจากธนาคารสาขาในต่างประเทศของบรรดาแบงก์จีน สำหรับในเซินเจิ้น ลูกค้าต้องแจ้งจองไว้กับสถาบันการเงินเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ เมื่อประสงค์จะนำเงินหยวนไปแลกเป็นเงินดอลลาร์ในโควตาสูงสุดต่อวัน ณ มูลค่า 10,000 ดอลลาร์
นอกจากนั้น บริษัทประกันภัยซึ่ง เมื่อก่อนหน้านี้ เคยได้รับอนุญาตให้ลงทุนได้ถึง 15% ของสินทรัพย์ในต่างแดน บัดนี้ ถูกสั่งให้ชะลอแผนการลงทุนในต่างประเทศไว้ก่อน เป็นจำนวนมาก
อาจจะเป็นก้าวเล็กๆ ทว่า แต่ละก้าวเหล่านี้ส่งผลดีได้อย่างมากมายในอันที่จะชะลอกระแสเงินทุนไหลออกนอกประเทศอันเชี่ยวกรากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)