รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ชี้ดาวเทียมที่เกาหลีเหนือยิงขึ้นสู่วงโคจรเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ดูเหมือนจะไม่ส่งสัญญาณใดๆ กลับมายังพื้นโลก แต่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าก็คือตัว “จรวดพิสัยไกล” ซึ่งสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่าจรวดที่ใช้ส่งดาวเทียมครั้งก่อน “เท่าตัว”
“หากเราเปรียบเทียบกับการยิงดาวเทียมครั้งที่แล้ว เราพบว่าน้ำหนักของวัตถุที่ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้นกว่าเก่า ผมคิดว่านี่แหละคือปัจจัยสำคัญ” พล.ท.เดวิด แมนน์ หัวหน้ากองบัญชาการป้องกันขีปนาวุธและอวกาศแห่งกองทัพสหรัฐฯ (SMDC) กล่าวในงานเสวนาที่อาคารรัฐสภา ซึ่งจัดโดยสถาบันคลังความคิดฮัดสัน (The Hudson Institute) เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.)
“เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณส่งวัตถุขึ้นสู่วงโคจรรอบโลกได้ ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่”
“ในขณะที่เราคุยกันอยู่นี้ ผมคิดว่าดาวเทียมเกาหลีเหนือยังไม่ส่งสัญญาณใดๆ กลับมายังพื้นโลก แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ และเทคโนโลยีด้านขีปนาวุธที่พวกเขาต้องการใช้เป็นเครื่องมือต่อรอง”
“การบรรลุซึ่งศักยภาพระดับนี้ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ คือสิ่งที่ทุกประเทศทั่วโลกจะต้องกังวลอย่างยิ่ง ในแง่ของขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM)”
แมนน์ชี้ว่า จรวดที่เปียงยางใช้ส่งดาวเทียมกวางเมียงซอง-4 เมื่อวันที่ 7 ก.พ. สามารถรับน้ำหนักได้เป็น 2 เท่าของจรวดอึนฮา-3 ที่ใช้ส่งดาวเทียมเมื่อปลายปี 2012
นายพลผู้นี้ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าดาวเทียมดวงล่าสุดของโสมแดงมีน้ำหนักเท่าใด แต่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เคยประเมินไว้ที่ราวๆ 200 กิโลกรัม
การยิงดาวเทียมซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ถูกประณามอย่างรุนแรงโดยสหรัฐฯ และนานาชาติ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพียงแผนอำพรางการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลเท่านั้น
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ออกมาประกาศจะเริ่มหารืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการนำระบบต่อต้านขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense System - THAAD) มาติดตั้งบนคาบสมุทรเกาหลี “ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
ที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีใต้มีท่าทีลังเลที่จะนำระบบต่อต้านขีปนาวุธล้ำสมัยซึ่งผลิตโดยค่ายล็อกฮีด มาร์ติน มาติดตั้ง เพราะเกรงจะผิดใจกับ “จีน” ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด
เมื่อมีผู้ตั้งคำถามว่า ระบบ THAAD จะถูกส่งไปเกาหลีใต้เมื่อไหร่ พล.ท.แมนน์ตอบว่า ยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน “แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาลทั้งสองจะเริ่มพูดคุยเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และเราคงต้องรอดูว่าผลจะเป็นอย่างไร”
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกมาเตือนวานนี้ (10) ว่า หากสหรัฐฯ นำระบบ THAAD เข้าไปติดตั้งในเกาหลีใต้ จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ