เอเอฟพี – ตำรวจญี่ปุ่นระบุในวันนี้ (3) ว่า หน่วยงานพิเศษของพวกเขาที่ดูแลเรื่องการจารกรรมได้จับกุมพลเมืองเชื้อสายเกาหลีคนหนึ่งฐานต้องสงสัยกระทำการฉ้อโกง ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เขากำลังทำงานเป็นสายลับให้กับเกาหลีเหนือ
ญี่ปุ่นอ่อนไหวเป็นพิเศษกับกิจกรรมจารกรรมของเกาหลีเหนือในประเทศ เนื่องจากสายลับจากประเทศนี้เคยถูกกล่าวหาว่าลักพาตัวพลเมืองชาวญี่ปุ่นไปสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับสายลับของพวกเขา
ญี่ปุ่นมีพลเมืองเชื้อสายเกาหลีเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นลูกหลานของคนจากคาบสมุทรเกาหลีซึ่งอพยพมายังญี่ปุ่นหรือถูกนำมาบังคับใช้แรงงานในช่วงเวลาที่โตเกียวควบคุมภูมิภาคนี้ในฐานะอาณานิคมตั้งแต่ปี 1910-1945
ชายวัย 49 ปีรายนี้ถูกจับกุมเมื่อวันอังคาร (2) โดยหน่วยงานความปลอดภัยสาธารณะของสำนักงานตำรวจนครบาลโตเกียว ซึ่งดูแลเรื่องอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการสอดแนมและกลุ่มหัวรุนแรงทางการเมืองและศาสนา คาซุฟุมิ ซูซูกิ โฆษกสำนักงานตำรวจฯ บอกกับเอเอฟพี
สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานโดยอ้างจากซูซูกิว่า ชายคนนี้ชื่อว่า พัค แชฮุน สัญชาติเกาหลี ซึ่งนั่นหมายความว่าเขามีรากเหง้ามาจากคาบสมุทรเกาหลี
เขากล่าวเสริมว่า พัคถูกสงสัยว่าใช้บัตรเครดิตซึ่งได้มาโดยผิดกฎหมายในการซื้อสินค้าจากบริษัทช้อปปิ้งออนไลน์ในโตเกียว ซูซูกิ กล่าว
พัคเคยเป็นรองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยโคเรียในกรุงโตเกียวและเคยมีส่วนร่วมในกิจกรรมจารกรรมที่พุ่งเป้าเผยแพร่แนวคิดของเกาหลีเหนือในเกาหลีใต้และจีน เกียวโด รายงาน
เขาถูกสงสัยว่าได้ซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 6 ชิ้นทางอินเตอร์เน็ต รายงานระบุ และเสริมว่า ตำรวจพบคำแนะนำเป็นลายลักษณ์อักษรและข้อความอีเมลที่ถูกเข้ารหัสจากหน่วยข่าวกรองเกาหลีเหนือในคอมพิวเตอร์ของเขา
สื่อท้องถิ่นอื่นๆ เสนอรายงานทำนองเดียวกันนี้ ระบุว่า พัคปฏิบัติการในเกาหลีใต้ตั้งแต่ราวๆ ปี 2000 หลังถูกจ้างโดยสำนักงานข่าวกรองของเปียงยางที่รู้จักกันในชื่อ “Bureau 225” และเชื่อกันว่าในญี่ปุ่นเองก็มีสายลับเกาหลีเหนือปฏิบัติการอยู่มานานแล้ว
เมื่อปีที่ 2002 เปียงยางยอมรับว่าได้เคยลักพาตัวชาวญี่ปุ่น 13 คนในปีช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 เพื่อนำไปฝึกสอนภาษาและประเพณีญี่ปุ่นให้แก่สายลับของพวกเขา
เหยื่อลักพาตัว 5 คนถูกปล่อยกลับญี่ปุ่น แต่เปียงยางยืนยันโดยไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าอีก 8 คนที่เหลือเสียชีวิตแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันอย่างมากในญี่ปุ่น ซึ่งยังมีความสงสัยว่าอาจมีผู้ถูกลักพาตัวไปอีกหลายสิบคน