ซีเอ็นเอ็น - เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยในวันศุกร์ (29 ม.ค.) ว่าเครื่องบินรบรัสเซียลำหนึ่งบินเข้ามาเฉียดใกล้เครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพอากาศอเมริกาในระยะแค่ 15 ฟุต (ราว 4.5 เมตร) บนท้องฟ้าเหนือทะเลดำช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุเป็นพฤติกรรมที่ก่อความไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ
ถ้อยแถลงจากนาวาอากาศโทไมเคิล แอล.บัลดาซา โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2016 เครื่องบิน RC-135U ของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังอยู่ในเส้นทางปกติในน่านฟ้าสากลเหนือทะเลดำ ได้ถูกขัดขวางจากซู-27 ของรัสเซีย ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยและไม่มีความเป็นมืออาชีพ
เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ อีกคนบอกกับซีเอ็นเอ็นว่าเครื่องบินของรัสเซียบินขึ้นมาทางฝั่งขวาของเครื่องบินอเมริกา จากนั้นก็หักเลี้ยวผาดโผนซึ่งก่อผลกระทบอันไม่พึงประสงค์ต่อการควบคุมเครื่องบินสหรัฐฯ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเผยต่อไม่ทราบว่าเครื่องบินมอสโกติดอาวุธหรือไม่ ขณะที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่างจากชายฝั่งรัสเซียมากกว่า 40 ไมล์ (64 กิโลเมตร)
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่า การเข้าสกัดของรัสเซียเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้วและส่วนใหญ่ดำเนินการอย่างปลอดภัย แต่เหตุการณ์ในวันจันทร์ (25 ม.ค.) คล้ายกับที่เกิดขึ้นในปี 2014
โดยในเหตุการณ์คราวนั้น เครื่องบินซู-27 ของรัสเซีย บินใกล้เครื่องบิน RC-135U ของรัสเซีย ในระยะ 100 ฟุต เหนือทะเลโอคอตสก์ ระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น
ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และกล่าวหาว่าเครื่องบินรบรัสเซียทำให้ชีวิตนักบินอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ด้วยที่เครื่องบินรัสเซียหักเลี้ยวและโชว์ให้นักบินสหรัฐฯ ได้เห็นว่าเครื่องบินของรัสเซียติดตั้งขีปนาวุธด้วย