เอเอฟพี - กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุในวันนี้ (28) ว่ามีพลเรือนอย่างน้อย 44 คนเสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันออกของซีเรียที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า การโจมตีเมื่อวันพุธ (27) คร่าชีวิตพลเรือนไป 29 ราย รวมถึงผู้หญิง 9 คน และเด็ก 3 คน ในหมู่บ้านที่กลุ่มไอเอสยึดครองในจังหวัดเดอีร์เอซซอร์ทางตะวันออกและเมืองเอกของจังหวัดนี้ที่ใช้ชื่อเดียวกัน
การโจมตีดังกล่าวคร่าชีวิตพลเรือนอีก 15 คน รวมถึงเด็กชายที่เป็นพี่น้องกัน 5 คน ในและนอกเมืองอัล-บับ และในที่มั่นของกลุ่มไอเอสในจังหวัดอเลปโปทางตอนเหนือ กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ และเสริมว่า การโจมตีดังกล่าวยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนด้วย
กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ซึ่งอาศัยเครือข่ายนักเคลื่อนไหวในพื้นที่ระบุว่า พวกเขามองเห็นความแตกต่างระหว่างรูปแบบการบินของซีเรีย รัสเซีย และกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ตลอดจนชนิดของเครื่องบินและสรรพาวุธที่ถูกใช้
รัสเซียเริ่มการโจมตีทางอากาศในซีเรียเมื่อเดือนกันยายนเพื่อสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งเป็นพันธมิตรรายสำคัญ กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรักนับตั้งแต่ฤดูร้อนของปี 2014
การสนับสนุนของรัสเซียช่วยให้กองทัพของอัสซาดทำการรุกคืบได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ และกลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุในวันนี้ (28) ว่า ทหารรัฐบาลได้เคลื่อนเข้าไปภายในระยะ 8 กิโลเมตรของเมืองอัล-บับแล้ว
นี่เป็นระยะที่ใกล้ที่สุดเท่าที่กองกำลังฝักใฝ่รัฐบาลเคยเข้าใกล้เมืองนี้ อันเป็นที่มั่นสำคัญของกลุ่มไอเอสในจังหวัดอเลปโป นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ
เมืองอัล-บับ ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนตุรกีไปทางใต้ราว 30 กิโลเมตร ตกเป็นของกองกำลังกบฏในเดือนกรกฎาคม ปี 2012 และถูกกลุ่มไอเอสเข้ายึดต่ออีกทอดในเดือนพฤศจิกายน ปี 2013
กองกำลังรัฐบาลพยายามที่จะแบ่งแยกพื้นที่ยึดครองของกลุ่มไอเอสในจังหวัดอเลปโปออกจากพื้นที่ที่กลุ่มนี้ยึดครองอยู่ในจังหวัดรอกเกาะห์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มสังเกตการณ์ระบุว่าการโจมตีของรัสเซียในซีเรียคร่าชีวิตพลเรือนไปกว่า 1,000 คน รวมถึงเด็ก 200 คน
รัสเซียประณามข้อกล่าวหาที่ว่าการโจมตีของพวกเขาคร่าชีวิตพลเรือนจำนวนมากว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ”
กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า การโจมตีของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ คร่าชีวิตพลเรือนไป 322 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กกว่า 90 คน
