เอเจนซีส์ - องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International - TI) เผยแพร่ดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index - CPI) ประจำปี 2015 โดยประเทศไทยได้คะแนนความโปร่งใส 38 จากคะแนนเต็ม 100 อยู่ในลำดับที่ 76 จากทั้งหมด 168 ประเทศที่สำรวจ เทียบเท่าบราซิล อินเดีย ตูนิเซีย และเป็นลำดับที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน
ผลการจัดอันดับความโปร่งใสนานาชาติโดยทีไอในปีที่แล้ว พบว่า “เดนมาร์ก” ได้คะแนนความโปร่งใสสูงที่สุด 91 คะแนน ลดลง 1 แต้มจากเมื่อปี 2014 แต่ยังคงครองอันดับ 1 ของโลกไว้ได้ 2 ปีซ้อน รองลงมาได้แก่ ฟินแลนด์ สวีเดน และนิวซีแลนด์ ในขณะที่ “บราซิล” ซึ่งมีกระแสข่าวทุจริตภายในรัฐวิสาหกิจน้ำมันเปโตรบราส คะแนนร่วงลงจากปีก่อนหน้าถึง 7 อันดับลงมาอยู่ที่ 76 ของโลก เทียบเท่าบอสเนียเฮอร์เซโกวีนา บูร์กินาฟาโซ อินเดีย ตูนิเซีย แซมเบีย และไทย
สำหรับคะแนนความโปร่งใสของไทยอยู่ที่ 38 เต็ม 100 ซึ่งเท่ากับเมื่อปี 2014 ทว่าลำดับโลกถูกปรับขึ้นจาก 85 ขึ้นมาอยู่ที่ 76 ในปีล่าสุด และหากเปรียบเทียบเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ไทยมีคะแนนความโปร่งใสเป็นอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ (คะแนน 85 ลำดับที่ 8 ของโลก) และมาเลเซีย (คะแนน 50 ลำดับที่ 54 ของโลก) ขณะที่บรูไนไม่ได้อยู่ในการจัดอันดับครั้งนี้
ทีไอ ได้อ้างถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจว่าเป็นคดีที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาในแดนเสือเหลือง
สหรัฐฯ ได้คะแนนความโปร่งใส 76 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 16 ของโลก ส่วนฮ่องกงและญี่ปุ่นมีคะแนน 75 อยู่ในลำดับที่ 18 เท่ากัน
จีน มีคะแนนความโปร่งใส 37 อยู่ลำดับที่ 83 ของโลก ในขณะที่รัสเซียถูกจัดไว้ที่อันดับ 119 ด้วยคะแนน 29 คะแนน
ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย (TransparencyThailand) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการจัดอันดับในปี 2015 ไว้ว่า “การจัดอันดับคอร์รัปชันเป็นวิธีการกระตุ้นให้ผู้คนทั่วโลกหันมาสนใจปัญหาทุจริตคอร์รัปชันว่าเป็นปัญหาร่วมกันของคนทั้งโลก ไม่ใช่เป็นปัญหาของประเทศกำลังพัฒนาหรือเป็นปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น โดยประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้ว่า มีความตื่นตัวต่อการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างมาก ทุกภาคส่วนได้ริเริ่ม ผลักดัน และพยายามแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเฉพาะด้านการปลูกจิตสำนึกและการป้องกัน ไม่ว่า จะเป็นการขับเคลื่อนให้ใช้หลักสูตร “โตไปไม่โกง” ในโรงเรียนทั่ว ประเทศการสร้าง “สำนึกไทย ไม่โกง”แก่ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ การออกพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยให้การดำเนินงานของภาคธุรกิจเอกชนเมื่อต้องขออนุมัติหรือใบอนุญาตจากภาครัฐมีความรวดเร็วและเที่ยงธรรม รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทาง อิเลกทรอนิกส์ต่างๆ หรือแม้แต่ในรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างกันอยู่ก็มีกลไกพิเศษหลายอย่างที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันโดยเฉพาะ
สิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้ผลอย่างยั่งยืนนั้นคนในสังคมต้องมีค่านิยมที่ถูกต้อง ซึ่งควรปลูกฝังและสร้างการรับรู้ค่านิยมที่ถูกต้องตั้งแต่วัยเด็กผู้ใหญ่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีสื่อก็ต้องช่วยกระตุ้นและตอกย้าให้คนในสังคมรับรู้ซึมซับอย่างสม่ำเสมอ”