รอยเตอร์ - บูร์กินาฟาโซทำข้อตกลงร่วมมือทางการทหารกับมาลีในการต่อต้านการก่อการร้ายด้วยการแชร์ข่าวกรองและร่วมกันลาดตระเวน เกิดขึ้น 2 วันหลังจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM ในแอฟริกาตะวันตกลงมือโจมตีโรงแรมสเปลนดิดกลางกรุงวากาดูกู ทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 29 ราย
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (17 ม.ค) ว่า นายกรัฐมนตรีของทั้งบูร์กินาฟาโซ และมาลี ได้ร่วมพบปะในวันอาทิตย์ (17) 2 วันหลังจากบูร์กินาฟาโซถูกก่อการร้ายอัลกออิดะห์บุกโจมตีโรงแรมสเปลนดิดระดับ 4 ดาวกลางกรุงวากาดูกู และหลังจากสิ้นสุดลง ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า พบมีผู้เสียชีวิตล่าสุดถึง 29 รายที่มีชาวต่างชาติถึง 18 ชาติ และสามารถช่วยเหลือเหยื่อตัวประกันออกมาได้สำเร็จ 156 คน
และหลังจากนั้น กลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM ที่มีฐานอยู่ในมัฆริบ แอฟริกาตะวันตกได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีโรงแรงสเปลนดิดแห่งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ทางกลุ่มได้โจมตีโรงแรมโรงแรมเรดิสันบลู ในกรุงบามาโก เมืองหลวงของมาลีที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ 20 พฤศจิกายน 2015 ที่ได้สังหารคนไปถึง 20 ชีวิต รวมไปถึงพลเมืองรัสเซีย จีน และสหรัฐฯ
นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในแถลงการณ์ของกลุ่มกอัลกออิดะห์ AQIM ที่ถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ข้อมูลด้านข่าวกรอง SITE กล่าวว่า “ปฏืบัติการศักดิ์สิทธินี้เป็นเพียงแค่หนึ่งหยดน้ำในทะลของญิฮัดทั่วโลก”
และในแถลงการณ์กลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM ยังได้ระบุตัวผู้ปฎิบัติการ 3 ราย รวมไปถึงได้เรียกโรงแรมที่ตกเป็นเป้าโจมตี และบริเวณใกล้เคียงว่าเป็น “ศูนย์รวมที่ชั่วร้ายในโลกข่าวกรองชาติตะวันตกในเขตแอฟริกาตะวันตก”
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในข้อตกลงร่วมมือทางการทหารระหว่างทั้งบูร์กินาฟาโซ และมาลี ในรายละเอียดนี้ยังไม่มีการเปิดเผย แต่ทว่าเป็นที่แน่ชัดว่าทั้งสองชาติจะจับมือกันในด้านแลกเปลี่ยนการข่าว รวมไปถึงการร่วมปฎิบัติการลาดตระเวนเพื่อหยุดยั้งการขยายพื้นที่ปฎิบัติการก่อการร้ายของกลุ่มก่อการร้ายอัลกกออิดะห์ AQIM และกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ที่เริ่มขยายพื้นที่การโจมตีอย่างกว้างขวาง
ซึ่งรอยเตอร์ชี้ว่า เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่าง ๆ ใช้ทางเหนือของมาลีเป็นเสมือนกองบัญชาการ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา กลุ่มก่อการร้ายได้ลงมือโจมตีจุดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของมาลี และทำให้เจ้าหน้าที่ของบูร์กินาฟาโซรู้สึกวิตกถึงบริเวณแนวพรมแดนที่ติดกับมาลียาวตลอดซึ่งเป็นส่วนของทะเลทรายที่ว่างเปล่าอาจถูกใช้เป็นจุดหยุดพักของก่อการร้ายได้
โดยนายกรัฐมนตรี บูร์กินาฟาโซ พอล คาบา ธีบา (Paul Kaba Thieba)แถลงว่า “เป็นความมุ่งมั่นของทั้งสองชาติในการร่วมมือเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย”
และในวันอาทิตย์ (17) ธีบา และนายกรัฐมนตรีมาลี โมดีบา เคอีทา (Modibo Keita) ได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุการณ์บุกจู่โจมของกลุ่มอัลกกออิดะห์ในวันศุกร์ (15) ซึ่งคนทั้งคู่ได้ตรวจดูบริเวณด้านนอกของที่เกิดเหตุ ที่ยังคงมีรอยกระสุน และรอยยิงต่าง ๆ ยังคงอยู่
ซึ่งยังพบว่ายังคงมีการรักษาความปลอดภัยสูงบริเวณด้านนอก และในส่วนด้านในของโรงแรมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงบูร์กินาฟาโซ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษฝรั่งเศสยังคงทำการสืบสวน