เอเจนซีส์ – หลังจากพายุหิมะโจแนสได้พัดขึ้นฝั่งตะวันออก และทำให้กรุงวอชิงตัน ดีซี กลายเป็นเมืองร้างพร้อมหิมะท่วมสูง สภาพอากาศหนาวจัด และทำให้หน่วยงานรัฐและโรงเรียนจะยังคงปิดทำการต่อในวันนี้ (25 ม.ค.) ในขณะการให้บริการรถไฟใต้ดินและรถประจำทางจะเริ่มเปิดให้บริการได้บ้างในบางส่วน แต่จำกัด มีรายงานว่า เที่ยวบินกว่า 12,000 เที่ยวถูกยกเลิกในช่วงวันหยุด และอีก 800 เที่ยวถูกยกเลิกในวันจันทร์ (25) ประชาชนชาวอเมริกันกว่า 40,000 คนในรัฐนิวเจอร์ซีต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ และรัฐนิวเจอร์ซีต้องประสบกับน้ำท่วมฉับพลัน และมีรายงานตัวเลขรวมผู้เสียชีวิตล่าสุดจากภัยพายุหิมะเพิ่มถึง 30 คนในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ว่า ในวันอาทิตย์ (24) ที่ผ่านมา ถือเป็นวันที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ ต้องพบกับสภาพอากาศหนาวจัดที่มีหิมะตกหนักมากที่สุดในประวัติการณ์ และส่งผลทำให้ในวันจันทร์ (25) สำนักงานหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และของรัฐบาลท้องถิ่น รวมไปถึงโรงเรียนจะยังคงปิดให้บริการต่อไป แต่ในส่วนรถไฟใต้ดินและรถประจำทางจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในบางส่วน แต่มีการให้บริการแบบจำกัด
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่าการให้บริการรถไฟใต้ดินสาธารณะในนิวยอร์กที่วิ่งจำนวนราว 730,000 เที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ตามปกติ จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันนี้ (25) ในรถไฟใต้ดิน 3 สาย และรถประจำทางอีก 22 เส้นทางวิ่งเท่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังเตือนประชาชนในพื้นที่ว่า อาจต้องใช้เวลาหลายวันในการเปิดถนนบริเวณบ้านเรือนประชาชนอาศัย ซึ่งถนนเหล่านี้ที่มีหิมะตกท่วมหลังพายุโจแนสเข้าใน 36 ชม.ที่ผ่านมา และทำให้เกิดหิมะตกหนักสูงกว่า 2 ฟุตในบางพื้นที่
โดยวอชิงตันโพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ร้องขอให้บรรดาชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางออกนอกสถานที่ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ หรือการเดินเท้า เนื่องจากทางภาครัฐยังไม่สามารถเคลียร์หิมะที่ตกออกจากพื้นที่สาธารณะได้ทัน ถึงแม้ว่าแอนดรูว์ โคโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก จะได้ยกเลิกคำสั่ง “ห้ามเดินทาง” ในวันอาทิตย์ (24) แล้วก็ตาม
และนอกจากนี้ พายุหิมะโจแนสยังทำให้การจราจรทางอากาศใน 3 สนามบินหลักของฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ต้องหยุดไปโดยปริยาย โดยท่าอากาศยานนานาชาติเรแกน ในนิวยอร์ก และท่าอากาศยานนานาชาติดัลลัส รัฐเทกซัส ได้ออกแถลงการณ์ในคืนดึกวันอาทิตย์ (24) ว่า ในวันจันทร์ (25) ทางท่าอากาศยานทั้งสองแห่งจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่เป็นการให้บริการในบางส่วน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า การที่จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบต้องใช้เวลาช่วงระยะเวลาหนึ่ง และส่งผลทำให้รัฐสภาคองเกรสที่มีกำหนดประชุมตามปกติต้องทำการยกเลิกการจัดประชุมที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 มกราคมนี้ไป
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมในวันนี้ว่ามีเที่ยวบินจำนวนถึง 12,000 เที่ยวถูกยกเลิกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อ้างอิงจากเว็บไซต์ FlightAware และในวันอาทิตย์ (24) ทางบริษัทสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มเติมในวันนี้อีก 800 เที่ยว
วอชิงตันโพสต์รายงานเพิ่มเติมต่ออีกว่า หิมะตกครั้งสุดท้ายในภูมิภาค วัดได้ในเวลา 23.45 น.ของวันเสาร์ (23) ราว 10-35 นิ้วในพื้นที่ต่างกันไป
โดย NBC NEWS รายงานว่า สามารถวัดหิมะที่ตกในสวนเซนทรัลปาร์ก นิวยอร์ก ได้ราว 26.6 นิ้วในขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติเจเอฟเค สามารถวัดได้ 30.1 นิ้ว
นอกจากนี้ ในอีก 4 รัฐ เช่น รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย รัฐเวอร์จิเนีย รัฐแมรีแลนด์ และรัฐเพนซิลเวเนีย เห็นหิมะตกไม่ต่ำกว่า 30 นิ้ว
และในส่วนตัวเลขยอดรวมผู้เสียชีวิต NBC NEWS รายงานว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเกี่ยวข้องกับพายุหิมะโจแนสไม่ต่ำกว่า 30 ราย ส่วนมากเกิดมาจากอุบัติเหตุทางรถ และโรคสภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ และอื่นๆ
โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตพบว่ามี หญิงชาวนิวเจอร์ซีวัย 23 ปี และบุตรชายวัย 1 ขวบ ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตภายในรถส่วนตัวเนื่องมาจากการขาดอากาศ และสูดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์เข้าไป แต่บุตรสาววัย 3 ขวบ มีชีวิตรอดมาได้แต่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งทางตำรวจสหรัฐฯ เชื่อว่าผู้ตายทั้งสองได้นั่งอยู่ภายในรถและเปิดฮีตเตอร์เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น แต่ทว่าท่อไอเสียของรถกลับอุดตันเนื่องมาจากหิมะ และสามีของผู้เสียชีวิตเป็นผู้พบรถคันดังกล่าว
และในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีการพบศพชายวัย 82 ปีเสียชีวิตเนื่องมาจากโรคหัวใจล้มเหลว ในขณะที่เขากำลังใช้พลั่วตักหิมะออกจากบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง
ส่วนในรัฐนอร์ทแคโรไลนา จากการรายงานของเดลีเมล สื่ออังกฤษ พบมีคนถึง 6 รายเสียชีวิตเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางรถเนื่องมาจากสภาพถนนที่เปียกและมีน้ำแข็งเกาะ และรวมถึงอีก 2 รายในรัฐเทนเนสซี เสียชีวิตเนื่องมาจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และทำให้รถที่ขับมาเสียหลักไถลตกถนนเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากการเปิดเผยของ NBC NEWS ว่า ประชาชนราว 40,000 คนในรัฐนิวเจอร์ซีต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันเสาร์(23) และมีจำนวนมากถึง 18,500 คนต้องเผชิญกับการไม่มีไฟฟ้าใช้ท่ามกลางกองหิมะและความหนาวต่อในเช้าวันอาทิตย์ (24) ในรัฐนิวเจอร์ซี ซึ่งส่วนมากอาศัยใน 3 เคาน์ตี ได้แก่เคป เมย์ เคาน์ตี (Cape May) โอเชียน เคาน์ตี (Ocean) และแอตแลนติก เคาน์ตี (Atlantic) รายงานตัวเลขจากแอตแลนติก ซิตี อีเล็คตริก (Atlantic City Electric)
นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมไฟฟ้าดับในวงแคบในบางพื้นที่ของรัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐเดลาแวร์
นอกจากนี้ ในรัฐนิวเจอร์ซี เช่น ในสโตน์ ฮาร์เบอร์ (Stone Harbor) เดลีเมลรายงานว่า ประชาชนต้องเดินทางไปทำธุระด้วยเรือคายัค เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในวันเสาร์ (23) โดยหนังสือพิมพ์สหรัฐฯ USA TODAY รายงานในวันอาทิตย์ (24) ว่า สำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ จะยังคงประกาศคำเตือนการเกิดน้ำท่วมฉับพลันบริเวณชายฝั่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ไปจนถึงรัฐเมนต่อไปในวันอาทิตย์
