เอเอฟพี - การโจมตีทางอากาศของรัสเซียคร่าชีวิตพลเรือน 47 คนในภาคตะวันออกของซีเรียในวันเสาร์ (23 ม.ค.) ท่ามกลางรายงานว่ากองทัพสหรัฐฯ กำลังสร้างสนามบินทหารเพื่อสนับสนุนการปราบปรามนักรบญิฮัดในพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไปทางตอนเหนือ
ในขณะเดียวกัน เหล่านักการทูตอาวุโสก็กำลังพยายามเร่งหาคำตอบให้แก่คำถามสำคัญที่ว่าใครจะเป็นตัวแทนฝ่ายต่อต้านในซีเรียในการเจรจาสัปดาห์หน้าซึ่งมีเป้าหมายที่การยุติสงครามที่ดำเนินมาเกือบ 5 ปีนี้
ในภาคตะวันออกของซีเรีย พลเรือน 47 คนถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศที่สงสัยว่ามาจากเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ในการควบคุมของนักรบญิฮาด
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า มีเด็ก 9 คนและผู้หญิง 2 คนอยู่ในหมู่ผู้เสียชีวิตในหมู่บ้านคาชาม ซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในจังหวัดเดอีร์เอซซอร์อันอุดมด้วยน้ำมัน ซึ่งกลุ่มไอเอสพยายามรุกคืบในช่วงไม่กี่วันมานี้ ถึงแม้จะถูกรัสเซียและรัฐบาลซีเรียระดมโจมตีทางอากาศอย่างหนักก็ตาม
ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่กลุ่มไอเอสบุกโจมตีเมืองเอกของจังหวัดแห่งนี้ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 500 คนและก่อให้เกิดความกลัวว่าประชาชน 200,000 คนที่ยังอยู่ที่นั่นอาจถูกสังหารหมู่
ในปี 2014 กลุ่มไอเอสประกาศสถาปนาอาณาจักร “คอลิฟะห์” ทั่วทั้งซีเรียและอิรัก และบังคับใช้การตีความกฎหมายอิสลามแบบอนุรักษ์นิยมสูดโต่งกับพื้นที่นั้น
ในซีเรียกลุ่มนี้ถูกโจมตีโดยรัฐบาลและพันธ์มิตรเก่าแก่ของดามัสกัสอย่างรัสเซีย รวมถึงกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งก็ต่อสู้กับนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ในอิรักเช่นกัน
เพื่อสนับสนุนการปรามปรามกลุ่มไอเอส หน่วยรบพิเศษสหรัฐฯที่ถูกส่งมายังซีเรียกำลังสร้างสนามบินทหารในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แหล่งข่าวบอกกับเอเอฟพีในวันเสาร์ (23)
แหล่งข่าวกองทัพซีเรียระบุว่า “ผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน” และกลุ่มติดอาวุธชาวสเคิร์ดในซีเรียเกือบ 100 คนสร้างสนามบินอาร์เมลันนมในจังหวัดฮาซากาห์จวนจะเสร็จแล้ว
“สนามบินแห่งนี้จะถูกใช้สำหรับเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินขนส่ง ในตอนนี้ลานบินที่นี่มีความยาว 2,700 เมตร และพร้อมที่จะถูกใช้โดยเครื่องบินที่ขนส่งยุทโธปกรณ์และเครื่องกระสุน” แหล่งข่าวระบุเสริม
แหล่งข่าวความมั่นคงรายหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียระบุว่า “หน่วยรบพิเศษและที่ปรึกษาชาวอเมริกันกำลังใช้สนามบินอาร์เมลันเป็นฐานที่มั่นในการนำเฮลิคอปเตอร์ออกสู่แนวหน้า”
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ “ไม่ได้เข้าควบคุม” สนามบินแห่งใดในซีเรีย
“ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของภารกิจที่สหรัฐฯ ดำเนินอยู่ในซีเรีย” พ.อ.แพท ไรเดอร์ โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ กล่าว
เมื่อเดือนตุลาคม วอชิงตันได้อนุมัติส่งทหารปฏิบัติการพิเศษไม่เกิน 50 คนไปยังซีเรียเพื่อให้คำปรึกษาแก่กองกำลังท้องถิ่นที่สู้รบกับพวกไอเอส
ความขัดแย้งในซีเรียปะทุขึ้นครั้งแรกจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในปี 2011 แต่หลังจากนั้นได้กลับกลายเป็นสงครามนองเลือดอันยุ่งเหยิงที่คร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 260,000 คน
