เอเจนซีส์ - สถาบันวิจัยกลาโหม ไอเอชเอส เจนส์ (IHS Jane’s) เผยรายงานล่าสุดวานนี้ (21 ธ.ค.) ระบุกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) สูญเสียดินแดนที่ยึดครองไว้ราว 14% ในปี 2015 ในขณะที่กองกำลังเคิร์ดในซีเรียสามารถรุกคืบยึดพื้นที่ได้มากกว่าเดิมเกือบ 3 เท่าตัว
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าสะท้อนความล้มเหลวเชิงยุทธศาสตร์ของนักรบไอเอสซึ่งมีเป้าหมายในการยึดครองและขยายเขตแดนของ “รัฐคอลีฟะห์” ที่พวกเขาก่อตั้ง และนำกฎหมายอิสลาม (ชารีอะห์) ที่ผ่านการตีความแบบสุดโต่งมาบังคับใช้
ดินแดนที่หลุดจากการยึดครองของไอเอสยังรวมถึงเมืองยุทธศาสตร์อย่าง ทาล อับยาด (Tal Abyad) ตรงพรมแดนซีเรียฝั่งที่ติดกับตุรกี, เมืองติกริต (Tikrit) ในอิรัก และโรงกลั่นน้ำมันไบจีในอิรัก
ไอเอสยังสูญเสียการควบคุมเส้นทางหลวงที่เชื่อมระหว่างเมืองรอกเกาะห์ (Raqa) ในซีเรียซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลัก กับเมืองโมซุล (Mosul) ทางตอนเหนือของอิรัก ทำให้การลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างเมืองทั้งสองยากลำบากขึ้น
“การสูญเสียจุดผ่านแดนที่เมือง ทาล อับยาด เริ่มส่งผลกระทบต่อเงินทุนของไอเอส ตั้งแต่ก่อนที่สหรัฐฯ และพันธมิตรจะเริ่มทิ้งระเบิดโจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ทำรายได้ให้แก่พวกนักรบญิฮัด” โคลัมบ์ สแตร็ก นักวิเคราะห์อาวุโสผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางกล่าว
สถาบันวิจัยซึ่งมีฐานในสหรัฐฯ แห่งนี้ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไอเอสสูญเสียดินแดนไปแล้วประมาณ 12,800 ตารางกิโลเมตร เหลือที่ยังยึดครองไว้ได้เพียง 78,000 ตารางกิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สามารถยึดเมืองสำคัญไปได้หลายแห่งในปีนี้ เช่น เมืองโบราณมรดกโลก “พัลไมรา” (Palmyra) และเมืองรามาดี (Ramadi) เมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ จังหวัดใหญ่ที่สุดของอิรัก
ไอเอชเอสชี้ว่า นักรบไอเอสต้องแลกชัยชนะเหล่านี้มาด้วยการสูญเสียดินแดนตอนเหนือให้กับกองกำลังเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมาสามารถขยายเขตแดนได้ถึง 186%
“แนวโน้มเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าพวกไอเอสเริ่มมีกำลังไม่พอ และมองว่าการยึดดินแดนของเคิร์ดไว้ไม่สำคัญเท่าขับไล่ทหารซีเรียและอิรักออกจากพื้นที่ซึ่งเคยเป็นของชาวสุหนี่มาแต่เดิม” สแตร็กกล่าว
นักรบเคิร์ดในซีเรียเป็นสมาชิกกลุ่มใหญ่ในกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian Democratic Forces) ซึ่งเป็นการร่วมกลุ่มระหว่างชาวเคิร์ดและอาหรับ เพื่อต่อสู้พวกนักรบญิฮัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย
นอกจากจะถูกท้าทายโดยพวกเคิร์ดแล้ว ไอเอสยังบอบช้ำไม่น้อยจากการต่อสู้กับทหารอิรัก กบฏซีเรีย รวมถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรอเมริกา
รัฐบาลอิรักสามารถทวงดินแดนคืนจากไอเอสได้ราวๆ 6% ในปีนี้ ในขณะที่ชาวเคิร์ดในอิรักได้กลับไปราว 2%
ฝ่ายที่ได้ชื่อว่าพ่ายแพ้หนักที่สุดเห็นจะไม่พ้นรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งสูญเสียดินแดนให้กับฝ่ายตรงข้ามถึง 16% เหลือที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลเพียงราวๆ 30,000 ตารางกิโลเมตร หรือไม่ถึงครึ่งของที่ไอเอสยึดได้ และน้อยนิดเมื่อเทียบกับพื้นที่ 185,000 ตารางกิโลเมตรของซีเรียทั้งประเทศ