เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมที่ยืนยันว่า วิหารโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองพัลไมรา (Palmyra) ของซีเรียถูกระเบิดจนพังย่อยยับด้วยน้ำมือกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งมุ่งทำลายมรดกทางวัฒนธรรมที่ขัดแย้งกับหลักอิสลามในดินแดนที่เข้าไปยึดครองไว้ได้
ศูนย์วิจัยและฝึกอบรม UNITAR ในสังกัดยูเอ็นได้เผยภาพถ่ายดาวเทียมวิหารเบล (Temple of Bel) ทั้งช่วงก่อนและหลังถูกระเบิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 ส.ค.) โดยก่อนหน้านั้นพวกไอเอสก็ได้ระเบิดทำลายวิหาร “บาล ชามิน” ไปแล้วหลังหนึ่ง
ภาพถ่ายดาวเทียมของ UNITAR เมื่อวันที่ 27 ส.ค. เผยให้เห็นโครงสร้างอาคารรูปสี่เหลี่ยมที่มีเสากลมล้อมรอบ แต่ภาพที่ถ่ายล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (31) กลับพบว่าแทบไม่มีอะไรเหลือคงสภาพนอกจากเสา 2-3 ต้น และตัวกำแพงด้านนอกสุด
“เราสามารถยืนยันได้ว่ามีการทำลายตัวอาคารหลักของวิหารเบล รวมถึงแนวเสาที่ตั้งอยู่ติดกับตัววิหาร”
วิหารเบลซึ่งมีอายุราว 2,000 ปี ถือเป็นโบราณสถานที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญที่สุดในเขตเมืองเก่าพัลไมรา ซึ่งองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ยกย่องว่า “มีคุณค่าโดดเด่นในระดับสากล”
กองกำลังรัฐบาลซีเรียสูญเสียเมืองมรดกโลกแห่งนี้ให้แก่พวกไอเอสในเดือนพฤษภาคม ซึ่งหลังจากนั้นนักรบอิสลามิสต์ก็ได้ลงมือทำลายซากวิหารเก่าแก่ที่พวกเขาถือว่าเป็นการบูชาเทวรูปที่ขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม
ไอเอสยังได้ฆ่าตัดคอนักโบราณคดีผู้มีชื่อเสียงวัย 82 ปีที่เมืองพัลไมรา เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
โบราณวัตถุล้ำค่าจำนวนมากถูกไอเอสขนไปขายในตลาดมืดเพื่อนำเงินมาทำทุน และยังเป็นการประกาศเป้าหมายของพวกเขาที่จะทำให้อิรักและซีเรียอยู่ภายใต้การปกครองด้วยหลักอิสลามที่ถูกตีความแบบสุดโต่ง
ด้านศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอน รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (30) ว่า ไอเอสได้นำกล่องและถังบรรจุระเบิดไปวางไว้ภายในวิหารเบล จากนั้นจึงกดระเบิดจนภายในตัววิหารพังเสียหาย
“มันเป็นวิหารที่มีชื่อเสียงและสำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองพัลไมราด้วย พวกเขามักจะมาจัดเทศกาลเฉลิมฉลองกันที่นี่” โมฮัมหมัด ฮัลซัน อัล-ฮอมซี นักเคลื่อนไหวในเมืองพัลไมรากล่าว
วิหารเบลก่อสร้างขึ้นในช่วง 32 ปีก่อนคริสตศักราชจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 2 และเคยถูกใช้เป็นทั้งโบสถ์และมัสยิดมาก่อน