รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - ประชาชนชาวไนเจอร์ผู้เข้าข่ายมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจำนวนกว่า 1.5 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งหมดจะถูกกีดกันออกจากการใช้สิทธิในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า หลังจากที่บรรดานักการเมืองไนเจอร์ยังไม่สามารถหาความเห็นชอบร่วมกันได้เกี่ยวกับเรื่องระบบการลงทะเบียนรับรองประชาชนกลุ่มนี้
ในระหว่างการประชุมสมาชิกรัฐสภาไนเจอร์นัดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) มีความพยายามเสนอแนวทางจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 21 กุมภาพันธ์โดยให้ประชาชนจำนวน 1.5 ล้านคน ซึ่งไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน หรือเอกสารสูญหาย สามารถหาพยานบุคคลมายืนยันตัวตนของตนเพื่อให้สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ แต่ทว่าจนท้ายที่สุดบรรดาสมาชิกรัฐสภาไนเจอร์ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ร่วมกันได้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดส่งผลให้จำนวนผู้ที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งของไนเจอร์จะเหลือเพียง 7.5 ล้านคนจากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 19 ล้านคน
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้บรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้านของไนเจอร์ต่างออกโรงกล่าวหารัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีมาฮามาดู อิสซูฟู ว่า กำลังพยายามเพิ่มพูนอำนาจเผด็จการของตัวเอง และพยายามลดจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงเพื่อให้ตนเองเป็นฝ่ายได้เปรียบในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
อย่างไรก็ดี รัฐบาลไนเจอร์ซึ่งเพิ่งรอดพ้นจากการถูกทำรัฐประหารมาแบบสดๆ ร้อนๆ เมื่อเดือนธันวาคมออกคำแถลงยืนยันว่า ฝ่ายของตนจะดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ซึ่งอาจรวมถึงการตัดสิทธิประชาชนเกือบ 1.5 ล้านคนที่ไม่มีบัตรหรือเอกสารประจำตัวใดๆ ออกจากการใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมอ้างว่าไม่มีกฎหมายฉบับใดของไนเจอร์ที่ระบุว่าผู้ที่ไม่มีเอกสารประจำตัวสามารถใช้พยานบุคคลมายืนยันตัวตนแทนได้
