เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลองด์ ระบุในวันนี้ (5 ม.ค.) ว่าฝรั่งเศสจะไม่ยื่นมือเข้าไปก้าวก่ายสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบีย แต่เรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติดำเนินการร่วมกันเพื่อหยุดยั้งวิกฤติการสู้รบในประเทศดังกล่าว
"เรากำลังดำเนินการควบคุมการก่อการร้ายทางตอนใต้ แต่ฝรั่งเศสจะไม่ยื่นมือเข้าไปแทรกแซงสถานการณ์ในลิเบีย เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของประชาคมนานาชาติ
เมื่อถูกถามว่า ฝรั่งเศสจะดำเนินการไหม หากเป็นปฏิบัติการที่ได้รับมอบหมายจากสหประชาชาติ โอลองด์ ได้ตอบว่า จะต้องมีความชัดเจนทั้งในเรื่องของการมอบหมาย เรื่องขององค์กร รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นจะต้องมีความเหมาะสม ซึ่งในตอนนี้หลายอย่างยังไปไม่ถึงจุดนั้น
ก่อนหน้านี้ ผู้นำของไนเจอร์ได้ระบุไว้เมื่อวันศุกร์ (2 ม.ค.) ว่าการคลี่คลายวิกฤติในลิเบียนั้นไม่อาจจะเป็นไปได้เลย หากไม่มีการยื่นมือเข้าช่วยเหลือของนานาชาติ
"ผมยังมองไม่เห็นเลยว่าบรรดากองกำลังติดอาวุธที่ก่อการร้ายอยู่ในลิเบียจะยอมสร้างเงื่อนไขเพื่อให้เกิดการประนีประนอมแก่ชาวลิเบียได้อย่างไร การแทรกแซงของนานาชาติคือองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดการรอมชอมกันของชาวลิเบีย" ประธานาธิบดี มาฮามาดู อิสซูฟู กล่าว
นับตั้งแต่รัฐบาลของ "กัดดาฟี" สิ้นอำนาจ ลิเบียก็ตกอยู่ในความวุ่นวายจากการสู้รบกันของกองกำลังต่างๆ ทั้งยังมีอาวุธมากมายที่เกลื่อนกลาดอยู่ในประเทศนี้ โดยถูกนำเข้ามาผ่านทางมาลีและไนเจอร์
ขณะเดียวกัน บรรดาเอกอัครราชทูตจากสันนิบาตอาหรับ ก็เตรียมจะประชุมพูดคุยกันเกี่ยวกับวิกฤติในลิเบีย ตามคำขอของรัฐบาลลิเบียชุดปัจจุบัน ที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส "อีฟ เลอ แดร็ง" ก็ได้ไปเยือนภูมิภาคนั้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีการเดินทางไปไนเจอร์ เพื่อดูฐานที่กำลังสร้างขึ้นเพื่อใช้รับมือกับปัญหาการหลั่งไหลเข้ามาของอาวุธ รวมถึงพวกนักรบญิฮัดจากลิเบีย
เลอ แดร็ง บอกว่า การไปเยือนของเขาแสดงให้เห็นว่า ฝรั่งเศสมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะต้านพวกนักรบญิฮัด พวกผู้ก่อการร้าย รวมถึงผู้ที่ต้องการจะเปลี่ยนเส้นทางคาราวานเก่าแก่ให้กลายเป็นเส้นทางค้ามนุษย์และการสู้รบ