เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เตรียมขอให้รัฐสภาขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน หลังถูกบังคับใช้มาตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรมกรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีและหนึ่งในแกนนำพรรคการเมืองแดนน้ำหอมระบุในวันศุกร์(22ม.ค.)
นายปิแอร์ โลรองต์ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เปิดเผยหลังหารือกับนายออลลองด์ ที่พระราชวังเอลีเซ ว่า "ท่านประธานาธิบดียืนยันกับเราว่าจะมีการนำเสนอประเด็นต่างๆต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ในนั้นรวมถึงการขยายประะกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอายุ 3 เดือน"
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีก็ออกถ้อยแถลงยืนยันเช่นกันว่า "ท่านประธานาธิบดีแจ้งว่าด้วยภัยคุกคามก่อการร้าย จะมีการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน"
ก่อนหน้านี้ทำเนียบประธานาธิบดีเคยเผยเมื่อวันพุธ(20ม.ค.) ว่ารัฐบาลจะตัดสินใจภายในไม่กี่วันนี้ว่าจะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 เดือนหรือไม่ มาตรการซึ่งถูกบังคับใช้หลังจากพวกนักรบญิฮัดลงมือโจมตีกรุงปารีสอย่างพร้อมเพรียงในวันที่ 13 พฤศจิกายน คร่าชีวิต 130 ศพ
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นการให้อำนาจพิเศษแก่เจ้าหน้าที่สำหรับกักบริเวณและปฏิบัติการจู่โจมโดยไม่ต้องขอหมายศาล ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 26 กุมภาพันธ์
องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวิพากษ์วิจารณ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินปัจจุบัน ที่พวกเขามองว่ากำหนดข้อจำกัดต่างๆทางสิทธิมนุษยชนเลยเถิดเกินไปและไม่สมเหตุสมผล
ก่อนหน้าที่นายโลรองต์ จะเปิดเผยถึงแนวโน้มการขยายประกาศภาวะฉุกเฉิน นายมานูเอล วาลล์ส นายกรัฐมนตรีบอกว่าฝรั่งเศสจะใช้ทุกแนวทางต่อสู้กับก่อการร้ายและปกป้องพลเรือน และจนกว่าจะกำจัดพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) ได้สำเร็จ
หลังจากนายวาลล์ส ออกมาให้สัมภาษณ์กับบีบีซี รอบนอกการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ทางสำนักนายกรัฐมนตรีบอกกับเอเอฟพีว่ารัฐบาลไม่มีความตั้งใจที่จะคงประกาศภาวะฉุกเฉินไปนานนับปี
ฝรั่งเศสกำลังใช้แนวทางแข็งกร้าวขึ้นในการตอบสนองต่อภัยคุกคามจากกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ด้วยเสนอปฏิรูปรัฐธรรมนูญในประเด็นต่างๆ ในนั้นรวมถึงให้อำนาจถอนสัญชาติพลเมืองที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานก่อการร้าย หากคนเหล่านั้นถือสัญชาติอื่นด้วย แต่ข้อเสนอนี้ก่อความเห็นต่างทั้งภายในรัฐบาลและในหมู่ประชาชน